ขอนแก่น-หน่วยเคลื่อนที่เร็วบุกฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กลางตลาดสดหลังพบพ่อค้าแม่ค้ามาเช้ากลับไว พร้อมเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ครอบคลุมกลุ่มร้านนวด-เสริมสวย-สปา-ตลาดสดและร้านขายชำ ยอดทั้งจังหวัดทะลุ 70% แล้ว
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น นายกิตติโชติ เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล พร้อมด้วย นพ.ประวีร์ คำศรีสุข ผอ.รพ.พล นำคณะงานด้านการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 รพ.พล และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเมืองพล ลงพื้นที่ตรวจสอบพ่อค้า-แม่ค้าที่มาจำหน่ายสินค้าภายในตลาดทุกแผง เพื่อตรวจเข้มการเข้ารับการบริหารวัคซีนของผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย และพ่อค้า-แม่ค้า ที่มาจำหน่ายสินค้าที่ตลาดสดของเทศบาล ซึ่งมีทั้งหมดรวมกว่า 100 ร้านค้า โดยมีการตรวจสอบเอกสารการเข้ารับบริการวัคซีนเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 รวมไปถึงผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หากพบว่าใครไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จะทำการฉีดวัคซีนให้ถึงร้านและที่แผงจำหน่ายสินค้าตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดทันที
ขณะเดียวกัน คณะทำงานฯและชุดเคลื่อนทีเร็วด้านการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วมระหว่างเทศบาลเมืองเมืองพล และ รพ.พล ยังได้มีการออกตรวจสถานประกอบการเกี่ยวกับการให้บริการทั้งร้านเสริมสวย,ร้านสปา,ร้านนวด และร้านจำหน่ายหม่ำและสินค้าของฝากกและของที่ระลึก ที่ผู้ประกอบการและพนักงานจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบ 100 % ตามแผนงานที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกำหนด หากการตรวจสอบพบว่าร้านค้าหรือสถานประกอบการใดที่ได้รับวัคซีนครบ 100 % แล้ว จะมีการมอบป้ายร้านค้าปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มาเข้ารับบริการอีกด้วย
นายกิตติโชติ เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวว่า พ่อค้า-แม่ค้า ที่มาจำหน่ายสินค้าที่ตลาดสดในเขตเทศบาลฯรวมทั้งกลุ่มหาบเร่ แผงลอย และ รถเร่ทั่วไปจะมาเช้าและกลับไว บางคนไม่สะดวกที่จะมาเข้ารับการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขง รพ.พล คณะทำงานจึงได้มีการปรับแผนด้วยการจัดชุดเคลื่อนทีเร็วลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้กับพ่อค้า-แม่ค้า และพนักงานของร้านต่างๆ แบบบุกถึงที่ ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับกลุ่มสถานประกอบการด้านงานบริการ ทั้งร้านเสริมสวย ร้านนวด ร้านสปา ร้านตัดผม รวมไปถึงกุ่มร้านจำหน่ายสินค้าของฝากและของที่ระลึกโดยเฉพาะกับร้านจำหน่ายหม่ำสินค้าของฝากขึ้นชื่อของ อ.พล ริม 2 ข้างทาง ถนนมิตรภาพ ที่ชุดเคลื่อนที่เร็วได้ลงพื้นที่ติดตามและตรวจสอบการเข้ารับวัคซีนของผู้ประกอบการเพื่อให้ทุกคนได้รับวัคซีนกันแบบ 100 %
“ ในกดารตรวจสอบนั้น จะตรวจสอบแบบรายบุคคล ของแต่ละร้าน ว่ามีเจ้าของ หรือพนักงานคนใด ที่เข้ารับวัคซีนแล้วหรือยังไม่ได้รับ หากยังไม่ได้รับเลย ก้จะทำการตรวจสุขภาพและทำการฉีดวัคซีนแบบถึงที่ถึงร้านทันที เช่นเดียวกันกับคนใดที่ฉีดมาแล้ว 1 เข็ม และเข็มที่ 2 ยังไม่สามารถไปฉีดวัคซีนได้เนื่องจากต้องค้าขาย ชุดเคลื่อนที่เร็วของเราก็จะทำการฉีดวัคซีนตามในสั่งและใบนัดของแพทย์แบบถึงที่ทันทีเช่นกัน เพราะพ่อค้า-แม่ค้าของเรานั้นส่วนใหญ่มาเช้ามืด และกลับไว สายๆก็เดินทางกลับ การทำงานเชิงรุกของเทศบาลฯและ รพ.พล จึงต้องปรับเปลี่ยนเวลาและเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การฉีดวัคซีนในกลุ่มสถานประกอบการนั้นพบว่าครบแล้ว 100 % ประกอบด้วย ร้านจำหน่ายหม่ำและสินค้าของฝาก ริม ถ.มิตรภาพ ฉีดครบแล้ว 26 ร้าน,ร้านนวดและร้านสปา 15 ร้าน,ร้านเสริมสวยและร้านตัดผม 51 ร้าน,และร้านค้าในตลาดสดเทศบาลอีก 100 ร้าน ขณะที่ในสัปดาห์นี้จะเน้นหนักในกลุ่มตลาดนัด 2 แห่ง ซึ่งหน่วยเคลื่อนที่เร็ววัคซีนโควิด-19 จะไปเช็คชื่อแบบถึงร้านและถึงที่เช่นกัน”นายกิตติโชติกล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ภาพรวมทั้งจังหวัดขณะนี้คนขอนแก่นเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 70.84 % หรือ 889,828 คน คงเหลือ 336,344 คน จากเป้าหมายประชากร 1,256,172 คน ดังนั้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ หน่วยบริการวัคซีนทุกแห่ง ได้เดินหน้าให้บริการวัคซีนแบบวอร์คอิน คือคนขอนแก่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป รวมไปถึงกลุ่มคนต่างด้าวและคนต่างจังหวัดที่อยู่ในขอนแกน หรือขับรถผ่านขอนแก่น หรือมีความประสงค์จะเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-189 สามารถที่จะเดินทางไปที่หน่วยบริการวัคซีนของ รพ.ฯต่างๆ ที่ได้ให้บริการวัคซีนอยู่ในขณะนี้ ทั้งที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่าขอนแก่น ชั้น 5 ในความรับผิดชอบของ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสต์ มข.,หอประชุมมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในความรับผิดชอบของ รพ.ขอนแก่น,ศูนย์การค้าอู้ฟู่ ริม ถ.มิตรภาพ ในความรับผิดชอบของ ศูนย์อนามัยที่ 7 ,หอประชุมเทศบาลเมืองเมืองพล ในความรับผิดชอบของ รพ.พล ,รพ.สิรินธร,รพ.ชุมแพ, รพ.บ้านไผ่ และ รพ.ต่างๆที่มีการให้บริการวัคซีนแบบเชิงรุกที่ถือเป็นงานมหกรรมวัคซีนครั้งสำคัญ ที่ทุกคนจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและก้าวผ่าวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน