นายกรัฐมนตรีนำคณะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมพื้นที่จ.สิงห์บุรี พร้อมเปิดตัวโดรนส่งกล่องยาไปยังบ้านผู้ประสบอุทกภัยไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านพักได้
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คณะรัฐมนตรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยชุมชนบางแคในจ. สิงห์บุรี โดยมี นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะได้พบปะเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชุมชนบางแคใน ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมบริเวณใต้สะพานบางระจัน และลงเรือท้องแบนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยชุมชนบางแคในที่ไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านพักได้ และเดินทางต่อไปตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณวัดเถลิมมาศ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ "ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทยDelivers Wellness"ที่วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทธา อ.เมืองสิงห์บุรี โดยได้ร่วมกับรมว.มหาดไทย และคณะ กดปุ่มปล่อยโดรนสำหรับนำจ่ายกล่องยาไปยังบ้านผู้ประสบอุทกภัยที่ไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านพักได้ ถือเป็นนวัตกรรมในการขนส่งยาและเวชภัณฑ์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยในช่วงสถานการณ์อุทกภัย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดสรรงบประมาณในการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เมืองสิงห์บุรี จำนวน 300 ล้านบาท ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นจากใต้สะพานบางระจันถึงวัดสถิตวัฒนาราม ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันน้ำท่วมตามแนวตลิ่ง เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนประมาณ 2,146 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 1.47 ตารางกิโลเมตร
นอกจากนั้น ในจุดที่สอง บริเวณวัดเฉลิมมาศ อำเภออินทร์บุรี ซึ่งพบปัญหาน้ำรั่วซึม ทางจังหวัดสิงห์บุรี โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ได้ดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณซ่อมแซมระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนอินทร์บุรี ระยะทาง 2 กม. วงเงิน 25 ล้านบาทจะทำให้เกิดประโยชน์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวอินทร์บุรี ประมาณ 3,000 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 1.5 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะได้นำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจังหวัดสิงห์บุรีในการป้องกันสถานการณ์อุทกภัยอย่างยั่งยืน