พระนครศรีอยุธยา- กรมชลประทานเตือนเตือนระวังน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำย้ำเหตุจำเป็นต้องเร่งปล่อยระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นหลังมีมวลน้ำเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวันที่ 12 กันยายน กรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 2 เนื่องจากในปัจจุบัน ปริมาณน้ำไหลผ่านที่ จ.นครสวรรค์ มีมากถึง 903 ลบ.ม /วินาที อีกทั้งเมื่อมวลน้ำไหลมาสมทบ กับแม่น้ำสะแกกรัง ที่ จ.อุทัยธานี และประมาณน้ำฝนที่ตเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้คาดการณ์ว่า อาจมีแนวโน้มน้ำจะไหล มาที่หน้าเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ในเกณฑ์ถึง 1,300 - 1,400 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ไปที่ประมาณ 800-1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน
อย่าไรก็ตาม จ.พระนครศรีอยุธยา ถือเป็นพื้นลุ่มต่ำจะได้รับผลกระทบก่อน เช่นในเขต อ.บางบาลที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และ ในเขต อ.เสนา และ อ.ผักไห่ ที่ติดแม่น้ำน้อย โดยน้ำ จะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.50 เมตร จากระดับในปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่ช่วงวันที่ 13-16 กันยายนนี้
กรมชลประทานยืนยันว่า จะควบคุมปริมาณ การระบายน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำ อย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยจะไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำเหนือหลากเพิ่ม กรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบในทันที