ภูเก็ต-ผบ.ตร.นำแถลงปิดคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ระบุเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ ขณะที่หลายฝ่ายชื่นชมจับผู้ต้องหาได้รวดเร็วเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 ,นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ร่วมแถลงคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่พบศพในพื้นที่แอ่งน้ำใต้โตนน้ำตกอ่าวยน ถนนอ่าวยน-เขาขาด หมู่ที่ 8 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายยัน เคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ประจําประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนและนำไปสู่การขอออกหมายจับ นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ ผู้ต้องหาอายุ 27 ปี ชาวตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ผู้ต้องหารายนี้ไม่ใช่ เฉพาะตนเอง แต่เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนอยาก แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียในครั้งนี้ ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทนความสูญเสียในครั้งนี้ได้ ถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามที่จะสืบสวนปราบปรามจับกุม ผู้ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะไปทดแทนความสูญเสียตรงนั้นได้ จึงอยากจะบอกว่า พวกเรารู้สึกเสียใจ กับการสูญเสียในครั้งนี้มาโดยตลอด อยากจะยืนยันและเน้นย้ำว่าเราจะทำหน้าที่ รักษากฎหมาย ความสงบ เรียบร้อยปกป้องและพิทักษ์ ความเป็นอยู่ในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวตลอดไป และอยากจะให้มีนักท่องเที่ยวนั้นกลับมา ในประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดภูเก็ต แต่ในหลายๆ ส่วนของประเทศไทยด้วย
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของพี่น้องชาวภูเก็ต เพื่อนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดภูเก็ต ขอบคุณทางรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตลอดจน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอีกหลายท่าน ที่ได้ให้ข้อชี้แนะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในการที่จะช่วยภารกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการคลี่คลายคดี โดยเฉพาะพล.ต.อ. สุวัฒน์ ที่กรุณาลงมาพร้อมกับทีมงาน และสามารถคลี่คลายคดีนี้เสร็จในเร็ววัน รวดเร็ว และขอเรียนว่าทางจังหวัด รวมทั้งทุกภาคส่วน มีการปรึกษาหารือกัน และเราจะต้อง ทำอีกหลายส่วนขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้ ยกระดับ มาตรการในการรักษาความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวและเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้ จะสามารถดำเนินการควบคุมได้เร็ววัน
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รมว.ท่องเทียวและกีฬาได้ส่งจดหมาย แสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ผ่านไปยัง สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ และเชื่อว่าเนื่องจากเป็นคดีที่สะเทือนใจ อาจจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมผู้ต้องหาได้โดยเร็ว สามารถเรียกคืนความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยและด้านภาพลักษณ์ของประเทศกลับมาได้ในจังหวะที่ดีมากทีเดียว
สำหรับ ผลกระทบกับ โครงการ Phuket Sandbox จะเร่งติดตามประเมินผลกระทบ อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีอยากจะเรียนว่า จากสถิติการจองย้อนหลัง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา และอาจจะเร็วเกินไปที่จะประเมิน แต่ก็ยังพบว่า ยังไม่มีผลกระทบ ยังคงมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 5 ส.ค.มีการจองเข้ามา 7,027 Roomnight วันที่ 6 ส.ค.9,040 Roomnight และล่าสุดยังจองเข้ามา เกือบ 6,000 Roomnight เป็นต้น และทาง ททท.จะแจ้งให้สำนักงาน ททท.ทั่วโลก ติดตามการรายงานข่าวในพื้นที่ต่างๆว่า มีการรายงานข่าวในวงกว้าง อย่างไรและส่งผลกระทบด้านจิตใจ กับตลาดหรือไม่ เพื่อดำเนินการลดผลกระทบต่อเรื่องดังกล่าวต่อไป
ด้าน นายยัน เคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ประจําประเทศไทยกล่าวว่า ขอขอบคุณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจไทยที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนคดีนี้ เป็นความพยายามอันใหญ่หลวง ที่ได้ทุ่มเททำงาน สืบสวนหาพยานหลักฐาน และจับกุมตัวผู้กระทำความผิด จนสามารถคลี่คลายคดีความอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว ครอบครัวของผู้วายชนม์ และพลเมืองแห่งประเทศไทย สมควร จะได้รับการทำงาน สืบสวนสอบสวน ที่เป็นมืออาชีพเช่นนี้ และเชื่อมั่นว่า การทุ่มเทตรากตรำ ทำงานหนัก ของทีมงานสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย จะนำพาให้การสืบสวนสอบสวน คดีนี้บรรลุผลสำเร็จ อย่างงดงามจึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณรัฐบาลไทย และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับความทุ่มเท มุ่งมั่นที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ต กลับมาเป็นพื้นที่ปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ นายภูมิกิตต์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของประชาชนชาวภูเก็ต ขอขอบคุณทุกคนที่ได้ ให้ความสนใจในเรื่องนี้ และ มีการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว นี่คือ จุดเริ่มต้น เรียกความเชื่อมั่น กลับมาอีกครั้งหนึ่งของ ประเทศไทยและ จังหวัดภูเก็ต และขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่าภาคเอกชนและประชาชน จะให้ความร่วมมือกับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการสร้างความปลอดภัย เพื่อ ให้ดีที่สุด สำหรับชาวภูเก็ต คนไทย และนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และก่อนหน้านี้ภาคเอกชน ริเริ่มโดย นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ระดมทุน 200,000 บาทจากองค์กรภาคเอกชน 16 องค์กร และอดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตอีกหลายคน ร่วมกันสนับสนุนเงินรางวัล ให้กับผู้แจ้งเบาะแสจนไปสู่การนำจับ อย่างไรก็ดีแม้ว่า จะไม่ได้มอบให้ในส่วนนี้ แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยินดีมอบให้กับ ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้ในการดำเนินการ ตามที่เห็นสมควร ทั้งการดำเนินการในคดีนี้ และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต่อไป และยังมอบดอกช่อดอกไม้ ในโอกาสนี้ด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมให้นายธีรวัฒน์ กล่าวผ่านการโทรศัพท์มือถือโฟนอิน มายังห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ที่ใช้เป็นสถานที่แถลงข่าว ที่ผู้ต้องหากล่าวตอนหนึ่งว่าอาศัยที่บ้านพักในหมู่บ้านแหลมพันวากับภรรยาและลูก กำลังตกงาน อาศัยรับจ้างตัดหญ้า ได้ครั้งละ 1,000 บาทและเอาให้ ภรรยาทั้งหมด เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ช่วงสายๆ ประมาณ 11.00น.เศษ ขึ้นไปหาของป่า กล้วยไม้ แต่ไม่ได้ และกลับลงมาได้พบเห็นเหยื่อจึงเข้าไปล็อคคอด้านหลัง จับกดหน้าลงในแอ่งน้ำ สิ่งที่ทำเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ขอโทษคนไทยและญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต และยืนยันว่า บาดแผล ที่สีข้าง เป็นแผลเดิม ขนาดเล็ก และมีแผลเพิ่มเติม ในวันเกิดเหตุ บาดแผลนี้ให้ภรรยาดูคนเดียวเท่านั้น
สำหรับ ภาพข่าวการเปลือยท่อนล่างของผู้ตายนั้น ตนเองพบเห็นชาวต่างประเทศผู้นี้เปลือยกายมาก่อนที่จะลงมือ รวมทั้ง โยนรองเท้าผ้าใบเหยื่อทิ้งใกล้ๆกัน ห่างไปประมาณ 10 เมตร และใช้ผ้าใบที่ไหลมาจาก ลำธารน้ำตก เอามาปกคลุมร่างเหยื่อรวมทั้งยึดเอาเงินสดประมาณ 300 บาท เอาไปซื้อเครื่องดื่ม และอีกส่วนหนึ่งซื้อกัญชามาเสพ เหลือเงินอีกประมาณ 260 บาท หลังเกิดเหตุ กลับไปใช้ชีวิตเหมือนปกติกับครอบครัว จนทราบข่าว พบศพเหยื่อสาวชาวต่างประเทศ จาก ภรรยา จึงมีความหวาดกลัว และ ในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สอบสวน จนพบ ตนเอง ที่เป็นผู้ลงมือสังหาร และมีพยานหลักฐานมัดทั้งหมด