พระนครศรีอยุธยา-นายกอบต.บ้านใหม่มหาราชโพสต์เดือดชนนายทุนเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมยิ่งพูดยิ่งเห็นแก่ตัวปล่อยผู้ติดเชื้อโควิดลามติดคนในชุมชนอย่างขาดความรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือนายกอุ๊ นายกอบต.บ้านใหม่มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยาโพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดอย่างดุเดือด หลังจากเคยออกมาแสดงความเห็นถึงกรณีปล่อยมีคนติดเชื้อโควิดจากโรงงานกระจายมาในชุมชนจำนวนมากดังนี้ 

ผมทำหน้าที่ของผม เต็มที่ ในส่วนที่ผมทำได้วันนี้อยากจะบอกว่าทุกภาคส่วนราชการ อบต.เทศบาล อบจ.กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม อาสากู้ภัย หมอ พยาบาล โรงพยาบาล สาธารณสุขเขาทำงานกันเต็มร้อยหรือเกินร้อยด้วยซ้ำ

แต่จากข้อความของภาคอุตสาหกรรม ที่ตอบกลับผู้ใหญ่ในจังหวัดมาและท่านให้ผมดูนั้น

ผมจะตอบกลับ คนที่พูดดังนี้ ขอให้อ่านหลายรอบ มันยาว ต้องไปอ่านของที่เขาตอบแล้วค่อยมาอ่านที่ผมตอบ

ตัวท่านเองก็น่าเห็นใจครับ เพราะสเกลของอุตสาหกรรมอยุธยามันใหญ่ โรงงานมีทั้งที่ดีและที่ไม่ดี ทางออกคือ ต้องคุยร่วมสองฝ่ายระหว่างท้องถิ่นกับอุตสาหกรรม

และผมยังยืนยันคำพูดผมว่า

“โรงงานอุตสาหกรรมจะเปิด24ชั่วโมงไม่มีใครว่า ผลิตกันให้เต็มที่ แต่ต้องมีที่กักตัวที่พักคอยของพนักงาน ไม่ปล่อยกลับมาสู่ชุมชน”

ผมว่ายิ่งพูดยิ่งเห็นแก่ตัวและปัดความรับผิดชอบไม่ยอมรับความจริง

ผมจะตอบแบบนี้ครับ ตั้งใจอ่านให้ดี

1. 25 ปีที่แล้ว ผมทำธุรกิจโรงงานผลิตจารบีกำลังการผลิตติด10อันดับของประเทศอยู่ที่สมุทรสาคร ถ้าเคยเห็นจารบีถังแดงๆนั่นแหละของผม ทำไมผมจะไม่เข้าใจระบบโรงงานและผมเคยเรียนเคมีปฏิบัติการปิโตรเคมีรู้ระบบระดับห้องปฏิบัติการเคมีที่ต้องละเอียดขนาดไหนไปคิดเอา เพื่อนผมทุกวันนี้อยู่ในระบบอุตสาหกรรมจำนวนมาก

2. ระหว่างโรงงานกับชุมชนอื่นผมไม่ทราบแต่ถ้าชุมชนผมระบบมาตรฐานการสำรวจการคัดกรองการแยกคน ผมอาจจะดีและพร้อมกว่าอีกหลายโรงงานแน่นอนสามารถบอกได้ว่า คนติดโรคมาจากแหล่งใหน โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานโรงงาน ที่ผมมีฐานข้อมูลเฝ้าระวังทุกคนในตำบลแห่งนี้ เหมือนระบบสอบทานย้อนกลับได้ถึงต้นทาง ดังนั้น อย่ามาดูแคลนอบต.เล็กแบบผม ที่อาจจะมีระบบเหนือกว่าโรงงานพวกคุณอีกจำนวนมากด้วยซ้ำ

3. การดูแลผู้คนในตำบลของผม พร้อมรับมือในทุกรูปแบบ100%เต็ม ไม่ว่าจะเป็นHI CI ของตำบล ที่เรามีระบบของเราเองจะเรียกว่า อบต.I ก็ได้ ทั้งยังไม่รวมกับระบบCIของอำเภอที่อบต.สนับสนุนให้กับส่วนกลางอีกต่างหาก และ ที่พักของคนปกติ ที่ต้องแยกออกจากชุมชนกรณีในบ้านมีผู้ป่วยหรือเสี่ยงสูง หรือผู้เสี่ยงสูงที่ต้องแยกจากบ้านออกมา (อ่านอีกทีนะครับตรงนี้ถ้าไม่เข้าใจมาถามได้ ) เพื่อจะได้เห็นอะไรที่แตกต่างจากที่โรงงานทำและพูดถึงระบบอบต.เล็กๆอย่างผม เราดูแลอาหารสามมื้อ พร้อมยาสมุนไพร ยาที่สั่งนำเข้าจากจีนโดยตรงที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ที่จีน และเห็นผล รวมถึงยาที่เกี่ยวข้องในทุกรูปแบบ ระบบการซีลพื้นที่ของผู้ติดเชื้อ ผู้เสี่ยงสูง ระบบเฝ้าระวังโดยชุมชน การฉีดพ่นฆ่าเชื้อในพื้นระดับวันเว้นวัน ทั้งตำบล ระบบการสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้ติดเชื้อผู้เสี่ยงสูงภายในชุมชนด้วยระบบไลน์กลุ่ม และอื่นๆอีก

4. การออกมาแสดงความเห็นเพื่อส่วนรวมกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ไร้จิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมตามหลักของการทำธุรกิจของโลกยุคใหม่นั้น เป็นเรื่องของอารยะ คุณต้องยอมรับด้วยว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมสกปรกโสโครก น้ำเสียมลภาวะ และปัญหาโลกร้อน ต่างๆมากมาย มาจากโรงงานอุตสาหกรรมชั่วเลวทรามก็ไม่น้อย การที่คุณจะมากล่าวหาว่า คนพูดตำหนิมีอคตินั้น ผมว่า นี่แหละสำนึกเลว แทนที่จะไปปรับปรุงแก้ไขดูแลพวกตัวเองให้ดี ยอมรับไหมว่า มีโรงงานที่ไม่ทำตามระเบียบของทางราชการ กลับมาโทษคนอื่น โทษประชาชน โทษคนที่มาบอก นี่แหละคนจึงไม่กล้ามาพูดความจริงกัน ปัญหาจึงหมกกันอยู่ แต่คนอย่างผม “กล้าพูด”

5. การอ้างว่าโรงงานอุตสาหกรรมมีบุญคุณมีประโยชน์ด้านเศรษฐกิจแก่จังหวัดอยุธยามากมายนั้น แล้วไม่คิดถึงภาคส่วนชีวิตคนอื่นหรือ เกษตรกร ค้าขาย คนทำอาชีพอื่นที่ต้องรับผลกระทบจากการไม่ดูแลคนติดเชื้อจากโรงงานให้ดี แล้วกลับมาติดคนแก่ เด็ก ในชุมชน การอ้างเศรษฐกิจเฉพาะตัว คือการเห็นแก่ตัวของคุณ ธุรกิจที่ดีควรอยู่ร่วมกับสังคม ใช่หรือไม่ แล้วจะทำ CSR ไปทำไม จะมีระบบธรรมมาภิบาลไปทำไม อยุธยาไม่ได้มีภาคธุรกิจเดียวคืออุตสาหกรรมแต่มันยังมีธุรกิจชุมชน คนหาเช้ากินค่ำอีกมากมาย ธุรกิจท่องเที่ยวคุณไม่คิดหรือว่า อุตสาหกรรมที่ไม่รับผิดชอบ สร้างความเสียหายให้ภาคธุรกิจอื่นอีกเท่าไหร่ จังหวัดอื่นไม่มีภาคอุตสาหกรรมเขาก็อยู่ได้

ดังนั้นทุกภาคส่วนของธุรกิจต้องอยู่ร่วมกันได้ มันคือ”ระบบนิเวศน์ของสังคมและเศรษฐกิจ “อย่าเห็นแก่ตัว อ้างบุญคุณในเรื่องนี้การทำธุรกิจบนความเดือดร้อนชีวิตของประชาชนไม่ใช่ธุรกิจที่โลกและสังคมที่เจริญแล้ว ต้องการ

6. วันนี้โรงงานอุตสาหกรรมพวกคุณคุณต้องไปแยกแยะดีกับชั่วออกจากกัน ที่ดีก็ประกาศให้สังคมรู้และที่ชั่วก็อย่าปกปิดกันและลงโทษกันเองยังไงหรือจะปล่อยไปเพราะพวกข้า มีบุญคุณต่ออยุธยาเหลือเกิน การตั้งโรงงานไม่มีใครเตรียมที่พักคอยแต่แรกใช่ แต่ก็เช่นเดียวกันการเตรียมการในอบต.ของผมก็ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับอบต.เช่นกัน หรือทุกภาคส่วนมันก็ไม่เคยมีใครเคยเจอแต่มันอยู่ที่ระบบบริหารจัดการต่างหาก ว่าจริงใจและตั้งใจทำแค่ไหน จะแนะนำให้ เต้นท์โดมขนาดใหญ่ ที่ใช้จัดงานอีเว้นท์นั้น ติดตั้งสามวันเสร็จพร้อมระบบภายในรองรับคนได้เป็นร้อยและเป็นพันถ้าขยายต่อเพิ่ม ถ้าไม่เป็นไม่รู้ทำไม่ได้ มาปรึกษาได้ ถึงแม้ผมจะเป็นแค่นายกอบต.เล็กๆก็ตาม ผมพร้อมจะสอนให้ และหาที่ให้ด้วย

7. สิ่งที่ผมเรียกร้อง คือ การดูแลคนที่ติดเชื้อที่เสี่ยงสูงไม่ให้กลับสู่ชุนชน ต่างหาก ไม่ใช่ให้ปิด ถ้าจะปิดก็คือโรงงานที่ไม่รับผิดชอบ ถ้าพวกคุณทำได้ คุณจะเปิด24ชั่วโมง จะรวยให้เข็ดจะส่งเสริมตัวเลขจีดีพีเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ก็เรื่องของพวกคุณ ไม่มีใครไปด่าคุณหรอก คุณดูที่อื่นสิทำไมเขาปิดได้ เขาไม่ต้องกินต้องใช้กันหรือ ร้านค้าต่างๆในชุมชน ในจังหวัดอีกนับพันนับหมื่น ที่เม็ดเงินอยู่ในระบบฐานรากอย่างแท้จริง นอกระบบอุตสาหกรรม แต่คุณจะให้ความสำคัญของอุตสาหกรรมของคุณอย่างเดียวหรือ ไม่เห็นแก่ตัวรุนแรงไปไหมสิ่งที่ผมพูด ก็เพื่อคนส่วนรวมเพื่อชีวิตคนแก่และเด็กในชุมชนตำบลของผม ลองถ้าเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องคุณบ้างสิ คุณจะพูดหรือจะเงียบ หัวใจคือการทำให้ธุรกิจเดินได้ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาสังคมต่างหาก

8. พวกคุณมีการประสานระหว่างโรงงานอุตสาหกรรมกับแต่ละชุมชนไหมก่อนที่จะปล่อยคนติดเชื้อกลับมา ที่บ้านเขาหรือพวกคุณยิ่งใหญ่มากจนคิดว่า ทุกอบต.ต้องรับดูแลสิ นั่นคือประชาชน

พนักงานกับประชาชน คุณอาจแยกไม่ออก แต่ผมแยกออกว่า ประชาชนทำงานอะไรที่ไหนกันบ้าง เรื่องง่ายๆแบบนี้ คุณคุยว่าระบบโรงงานแน่เหนือกว่าอบต. ทำไมทำไม่ได้เชียวหรือ ผมยินดีไปช่วยวางระบบให้ก็ได้นะครับ

9. คุณจะมาดูไหมว่าคนติดเชื้อที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรมของพวกคุณในตำบลผมมีจริงไหมอย่างไรมาสิ ถ้าบอกว่ามาร่วมมือกัน มาสิครับ อยากเจอของจริงๆว่า ร่วมมือกันแก้ไข ไม่ใช่มาแก้ตัวกันไปเรื่อยๆ

10. ข้อนี้ สำคัญ การที่คุณพูดว่า

”มาร่วมมือกัน ช่วยแก้ปัญหา จะดีกว่าการออกมา แสดงบทบาท ให้ประชาชนเห็นว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์สูง น่าจะเป็นผู้แทนปวงชนที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ “

ผมจะตอบว่า คำว่าร่วมมือกันมาสิ ผมพร้อม

จะให้ผมไปหาหรือคุณจะมาหาผม คุณเคยเรียกท้องถิ่นแต่ละแห่งไปประชุมร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาไหม มีแต่ส่งปัญหามาให้เราแก้ต่างหาก กระบวนการแก้ปัญหามันต้องเริ่มจากใคร

ผมหรือคุณ เมื่อไม่มีการแก้ปัญหาจากพวกคุณผมจึงต้องลุกขึ้นมาพูดแบบตรงๆจี้จุดใจดำพวกคุณในสิ่งที่พวกคุณไม่รับผิดชอบต่างหาก นี่คืออิทธิฤทธิ์ มันคือความจริงยังไงที่มีอิทธิฤทธิ์ ทำให้พวกคุณต้องดิ้น กันพล่าน

คำว่า”น่าจะเป็นผู้แทนปวงชนที่ยิ่งใหญ่กว่านี้” ผมจะตอบให้ครับ ผู้แทนปวงชนที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมียศตำแหน่งเป็น สส.หรือเป็นนายกอบจ.หรือรัฐมนตรีหรืออะไรทั้ง

“ ผู้แทนปวงชนที่ยิ่งใหญ่นั้น “สำหรับผม มันคือประชาชนคนธรรมดาที่กล้าลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก ไม่ยอมอยู่ใต้ความไม่ยุติธรรมในสังคม

ดีกว่านักการเมืองที่อยู่ภายใต้อุ้งตีนธุรกิจอุตสาหกรรมที่ไร้จิตสำนึกต่อชีวิตคนและไม่กล้าออกมาพูดเพราะกลัวจะเสียคะแนนเสียง

พวกคุณต่างหากที่ต้องกลับไปดูแลพวกโรงงานอุตสาหกรรมระดับร้อยล้านพันล้านหมื่นล้านที่ไม่มีความรับผิดชอบและจิตสำนึก

วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ (นายกอุ๊) นายกอบต.บ้านใหม่มหาราช พระนครศรีอยุธยา นักการเมืองบ้านนอกๆชายขอบของอยุธยาและเป็นประชาชนคนหนึ่งของจังหวัดนี้เช่นกัน

8 สิงหาคม 2564

#นายกอุ๊#อบตบ้านใหม่มหาราช

ปล.ขี้เกียจพูดแล้ว ตัวใครตัวมันดีที่สุด