นครศรีธรรมราช-อดีตเชฟโรงแรมดังภูเก็ตตกงานจากโควิด-19 เดินสายขโมยแบตเตอรี่รถยนตร์ทุบกระจกดึงฝากระโปรงถอดแบตเตอรี่กว่า 10 ราย อ้างจำเป็นเมียท้องแก่
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่หน้าบริษัทเอสซีจี ถนนน้ำแคบ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธีรวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สภ.เมือง ควบคุมตัวนายชัยวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 ซอยทุ่งข่า ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำให้เสียทรัพย์ ทำลายเครื่องกีดกั้นเพื่อสะดวกในการนำทรัพย์นั้นหลบหนี
ทั้งนี้ ขณะที่นายชัยวุฒิก่อเหตุกล้องวงจรปิดของบริษัทจับภาพไว้ได้ขณะทุบกระจกรถยนต์ขนส่งของบริษัทที่ริมถนนก่อนโจรกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนมีหลักฐานแน่ชัดก่อนจะไปขอหมายศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการจับกุมตัวนายชัยวุฒิคนร้ายไว้ได้ จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ
นายชัวุฒิผู้ต้องหาได้ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์แล้วเปิดฝากกระโปรงรถโจรกรรมหม้อแบตเตอรี่มากว่า 10 ราย มีเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพียง 6 คดี ขณะทำแผนนายชัยวุฒิได้ชี้จุดเกิดเหตุ ทุบกระจกแล้วไปดึงตัวเปิดฝากระโปรงก่อนที่จะโจรกรรมแบตเตอรี่ไป หลังจากนั้นได้นำไปขายในราคาลูกละ 400 บาท โดยมีร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งย่านถนนอ้อมค่ายวชิราวุธเป็นผู้รับซื้อ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายชัยวุฒิ เป็นอดีตเชฟประจำโรงแรมแห่งหนึ่งชื่อดังใน จ.ภูเก็ต ถูกให้ออกจากการทำงานช่วงวิกฤติโควิด-19 จึงต้องเดินทางกลับมาบ้านและติดยาเสพติดด้วย หลังกลับบ้านอาศัยอยู่กับภรรยาที่ท้องแก่ในหอพักแห่งหนึ่งที่ซอยสารีบุตร ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หลังจากเงินหมดจึงได้ตัดสินใจตระเวนโจรกรรมแบตเตอรี่เอาไปขายร้านรับซื้อของเก่าเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและซื้อยาเสพติด
พ.ต.อ.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผู้ต้องหาใช้รถ จยย.ขับตระเวนก่อเหตุในช่วงกลางคืนกว่า 10 คดี จึงแกะรอยตามเส้นทางต่างๆ ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจนพบเบาะแสว่าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยสารีบุตรจึงสามารถจับกุมไว้ได้ในที่สุด ขณะผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่มาแจ้งความสามารถเข้ามาแจ้งได้ในภายหลังต่อไป