THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

11 พฤษภาคม 2564 : 11:40 น.

ฉะเชิงเทรา-ตำรวจทางหลวงจับแอดมินเพจยูทูบเบอร์ชื่อดังเจ้าของชาแนล"ดุกส้ม"นัดซิ่งรถบนทางด่วนสายบางปะกงสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว หนีไปกบดาน จ.เชียงใหม่แต่ไม่รอด

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. มอหมายให้ พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.8 บก.ทล. พ.ต.ท.วันชนะ ทิพย์อาสน์ สวญ.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. และ กำลังตำรวจสถานีทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 ร่วมแถลงผลการจับกุม นายปิยะพงษ์ วงษ์สุวรรณ ยูทูบเบอร์เจ้าของชาแนล “ดุกส้ม” ผู้โพสต์คลิปแข่งรถยนต์ในถนนหลวง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มี.ค.64 พบว่า มีการแห่แชร์วิดิโอคลิป ต้นกำเนิดความดัง BT50 VS ดุกส้ม ซึ่งเป็นวิดิโอบันทึกภาพการแข่งรถในถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ช่วง กม.52-57 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นการประลองความเร็วระหว่าง รถฮอนด้า ซีวิค สีส้ม - ดำ ทะเบียน ญง 6362 กทม. หรือ รถดุกส้ม และ รถกระบะ มาสด้า BT50 สีฟ้า ทะเบียน ตร 4762 กทม. หรือ รถมะลิ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจนทราบว่า เจ้าของรถกระบะ คือ นายชวลิต สุวรรณ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก na nuk chawalit suwan ส่วน เจ้าของรถเก๋ง ดุกส้ม เป็นช่องยูทูบใช้ชื่อ ดุกส้ม คือ นายปิยะพงษ์ วงษ์สุวรรณ

ต่อมา นายชวลิตได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ก่อนรับทราบข้อกล่าวหา และ ถูกนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดฉะเชิงเทราไปตั้งแต่ วันที่ 5 พ.ค.64 ที่ผ่านมา หากแต่ นายปิยะพงษ์ ผู้กระทำความผิดอีกราย กลับหลบหนี กระทั่งศาลออกหมายจับ ฐาน ร่วมกันแข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ส่วนนายปิยะพงษ์หลบหนีไปกบดานที่ จ.เชียงใหม่ ตำรวจจึงนำกำลังไปควบคุมตัว กลับมาดำเนินคดีตามหมายจับและนำตัวส่งศาลในวันนี้(11 พ.ค.)

นายปิยะพงษ์ วงษ์สุวรรณ เปิดเผยว่า ปกติตนขับรถแข่งในสนามจนได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้ว แต่เกิดมีการท้าทายกันเกิดขึ้นในโซเชียลจึงมีการนัดหมายแข่งขันบนทางหลวงดังกล่าว ซึ่งตนเป็นฝ่ายแพ้ ต่อมาทราบว่าถูกออกหมายจับ แต่เนื่องด้วยต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดทำให้ไม่สามารถเข้ามอบตัวได้ กระทั่งถูกจับกุม ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะต้องถูกดำเนินคดีและริบรถของกลางทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ตำรวจทางหลวง แจ้งข้อมูลไปยังประชาชน ว่า หากพบการรวมตัวมั่วสุมและเตรียมแข่งรถในทางสาธารณะหรือถนนสายหลัก สามารถแจ้งเบาะแสได้ทันที หรือแม้แต่สามารถส่งคลิปวิดิโอหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ได้โดยตรงโดยข้อมูลของพลเมืองดีจะเป็นความลับ นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการร่วมมือแก้ปัญหาการแข่งรถบนถนน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหรือทำให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนด้วย

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ