ชลบุรี-นายกเมืองพัทยาสั่งดำเนินการตามมาตรการเข้ม 5 ข้อ หลังศบค.ยกระดับเป็นพื้นที่สีแดง เตรียมพร้อมโรงพยาบาลรัฐและเอกชนยกระดับการักษา พร้อมประสานเปิด Hospitel รับผู้กักตัวเพิ่ม
เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประ ธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเมืองพัทยา เพื่อหารือและกำหนดแนวทางการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด—9 ตามมาตรการของ ศบค.หลังพบว่าการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.ชลบุรี ลุกลามมากขึ้น กระทั่งมีการประกาศให้จ.ชลบุรีเป็นพื้นที่สีแดง 1 ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศที่ต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกันสูงสุด
นายสนธยา กล่าวว่า สถิติของผู้ติดเชื้อในจ.ชลบุรีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง มีผลมาจากคลัสเตอร์กลุ่มสถานบันเทิงจนติด 1 ใน 5 ที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด โดยในวันนี้ในพื้นที่ของอ.บางละมุงก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 47 รายจึงต้องเฝ้าระวังและดำเนินการตามมาตรการของ ศบค.อย่างจริงจัง และในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี จะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อกำหนดทิศทางและมาตรการที่ชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคสำหรับเมืองพัทยามีการฉีดไปแล้วในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ 323 ราย จะมีเพิ่มอีก 200 โดสในวันที่ 19 เม.ย. ขณะที่เมื่อจ.ชลบุรีถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีแดงก็ต้องดำเนินการตามคำสั่ง 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.ร้านอาหารต้องปิดให้บริการในเวลา 21.00 น.โดยงดจำหน่ายและดื่มสุรา 2.ให้สถานสถานบันเทิงทุกประเภท 3.ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้ แต่ให้งดให้ส่วนของสวนสนุกและเครื่องเล่น 4.งดการเรียน การสอนตามสถานบันการศึกษา และสถาบันกวดวิชาทุกแห่ง และ 5.สถานที่ออกกำลังกายสามารถเปิดได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณผู้เล่น เรื่องนี้จะได้มีการไปเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง
นายสนธยา กล่าวว่า จากนี้คงต้องปฏิบัติตัวตามข้อกำหนด D-M-H-T-T-A คือ ใส่แมสต์ ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจหาเชื้อ และใช้แอปไทยชนะ พร้อมเตรียมยกระดับโรงพยาบาลที่ต้องรับการตรวจโรคและหาสถานที่ในการรองรับและกักกันตัวผู้ติดเชื้อ กรณีนี้รวมไปถึงโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ต้องให้ความร่วมมือด้วยเพราะถือเป็นคำสั่ง ศบค.หากละเลยหรือไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยังสถานประกอบการโรงแรมที่เป็น ALQ หรือ Alterrnitive Local Quarantine ให้มีการปรับเปลี่ยนเป็น Hospitel เพื่อใช้เป็น รพ.สนามในการรองรับการกักตัวผู้ติดเชื้อ ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการโรงแรม 2 แห่งที่เสนอตัวให้ความร่วมมือ จึงมั่นใจได้ว่าสำหรับเมืองพัทยาจะมีสถานที่รองรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ