เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานระดมกำลังช่วยพระธุดงค์ติดถ้ำพระไทรงามนาน 3 วันแล้ว หลังเข้าไปวิปัสสนากรรมฐานเกิดฝนตกหนักติดต่อกันน้ำใหลเข้าไปท่วมในถ้ำออกมาไม่ได้ 

เมื่อวันที่ 6 เมษายน ได้มีพระภิกษุเข้าไปธุดงค์และนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำพระไทรงาม หมู่ 8 บ้านดงงูใหม่ ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีพายุฝนตกกระหน่ำในพื้นที่ ทำให้ปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4-6 เมษายน ส่งผลให้บริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำเต็มไปด้วยน้ำท่วมขังสูง พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ภายในไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งทุกวันจะมีชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปใส่บาตรและถวายอาหารเป็นประจำ แต่ล่าสุดวันนี้เกิดน้ำท่วมถ้ำไม่สามารถเข้าไปได้ทำให้พระรูปดังกล่าวติดอยู่ในถ้ำด้วย จึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน จ.พิษณุโลกกว่า 30 นาย ได้ระดมกำลังพร้อมประสานไปยัง ปภ.พิษณุโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมได้สอบถามชาวบ้านได้รับคำยืนยันว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา มีพระภิกษุ 1 รูป อายุประมาณ 46 ปี ทราบชื่อ พระอาจารย์มนัส ได้เข้าไปที่ถ้ำพระไทรงามเพื่อไปปักกลดและนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำ กระทั่งมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำขึ้นสูงไม่สามารถออกมาได้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้นในพื้นที่ก็ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเวลาประมาณ 15.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินมะปราง และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สล.6 ถ้ำเดือนถ้ำดาว ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาทางช่วยเหลือแล้ว

จากการสอบถามพระสงฆ์ในวัดย่านดังกล่าว ทราบว่า ช่วงหน้าแล้งพระอาจารย์มนัส จะเดินทางมาที่ถ้ำพระไทรงามเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้พายุฝนมาเร็วทำให้น้ำท่วมปิดช่วงคอห่านของถ้ำจนไม่สามารถกลับออกมาได้ ความกว้างช่วงคอห่านประมาณ 12 เมตร ถ้าจะเข้าไปช่วยเหลือต้องดำน้ำเข้าไป และข้างในก็ไม่มีสัญญาณใดๆเลย จึงไม่สามารถติดต่อพระอาจารย์มนัสได้ ส่วนลักษณะถ้ำพระไทรงามจากระยะของปากถ้ำเดินเข้าไปประมาณ 400 เมตรจะไปเจอลักษณะคล้ายคอห่านหรือท้องช้างที่เป็นแอ่งกระทะสูงประมาณ 4 เมตร จะมีหินงอกหินย้อยเหมือนถ้ำทั่วไป แต่ตอนนี้น้ำท่วมปิดปากถ้ำเต็มทั้งหมด เป็นน้ำฝนจากบนภูเขาที่ไหลมาจากหลังถ้ำเอ่อล้นเข้าไปท่วมด้านใน

สำหรับ ถ้ำพระไทรงามปากถ้ำจะมีลักษณะงดงามด้วยหินย้อยสวยงามคล้ายช้าง หรือไดโนเสาร์ ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่ จุดแรก คือ สะดือถ้ำ มีหินย้อยจากหินปูน ทอดยาวลงมาจากเพดานถ้ำจนถึงพื้น ความยาวประมาณ2 เมตร หรือท่วมหัวคน นักธรณีวิทยาเชื่อกันว่า ภูเขาหินปูนเนินมะปราง มีอายุกว่า 300 ล้านปี และพื้นที่ส่วนใหญ่เคยเป็นทะเลมาก่อน ทำให้ภายในถ้ำมีทั้งหินงอก หินย้อย สีขาวและดำ จุดเด่นของถ้ำนี้คือการพบปลาสีขาวที่ไม่มีตา ชาวบ้านเรียกว่าปลาตาเดียวพันธุ์หายาก สภาพน้ำในถ้ำเป็นน้ำนิ่งใสเย็น นอกจากนี้ถ้ำพระไทรงามเคยมีพระและฤาษีบุกเข้ามาพิสูจน์เหล็กไหลและปลุกเสกวัตถุมงคลตามความเชื่อ เคยมีนักสำรวจชาวต่างชาติเดินเข้าไปในถ้ำถึง 3 วัน 3 คืน ก็ยังเดินไปไม่ทะลุปากทางออกอีกฝั่งหนึ่งของถ้ำ จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าถ้ำพระไทรงามมีความลึกของถ้ำเท่าใดแน่

เวลา 17.00 น. นายปารเมษ แสงสว่าง นายอำเภอเนินมะปราง ซึ่งลงพื้นที่ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือพระมนัสได้สั่งการยุติการค้นหาก่อน โดยจะเริ่มต้มค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายปารเมษ กล่าวว่า อุปสรรคข้างในคือความมืดน้ำไหลแรงขณะนี้กำลังรอนักประดาน้ำชุดแรกที่เข้าไปเพื่อออกมาสรุปสถานที่ ขณะนี้ได้สั่งให้นักประดาน้ำถอนตัวออกมาจากถ้ำก่อน พรุ่งนี้จะเริ่มวางแผนในช่วง 08.00 น เพื่อส่งเรื่องต่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการเรื่องทำอีกที และร้องขอผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ชีพกู้ภัยเกี่ยวกับถ้ำ เป็นชุดดำน้ำ 2 ถังซึ่งจะเชี่ยวชาญมากกว่ากู้ชีพในพื้นที่หรือนักประดาน้ำในพื้นที่ที่จะดำน้ำได้เพียงถังเดียว

นายปารเมษ กล่าวว่า เราไม่รู้ว่าภายในถ้ำด้านในมีความลึกสุดทางแค่ไหนโอกาสที่ออกซิเจนเพียงถังเดียวจะหมดก่อนมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง เนื่องจากพื้นที่ภายในถ้ำเป็นลักษณะดำน้ำสวนกระแสน้ำเข้าไป จึงทำให้เวลาในการดำน้ำไม่เหมือนดำน้ำในพื้นที่ราบ จึงจะใช้เวลานานมากขึ้น ขณะนี้กำลังรอนักประดาน้ำชุดแรกที่เข้าไปสำรวจพื้นที่เนื่องจากมีคำสั่งให้ถอนกำลังก่อนเพราะว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยและค่อนข้างมีสภาพอากาศที่เย็นและน้ำไหลแรง 

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก กู้ภัยพิษณุโลกมูลนิธิประสาทบุญสถาน จุดอำเภอชาติตระการ รายงานว่า พระธุดงค์เข้าไปปักกลดติดอยู่ในถ้ำ ‘พระไทรงาม’ พื้นที่อำเภอเนินมะปราง หลังจากเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมปิดปากถ้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือ

ทางเพจจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ

ภาพ กู้ภัยพิษณุโลกมูลนิธิประสาทบุญสถาน