พระนครศรีอยุธยา-หนุ่มใหญ่พร้อมทนายความแจ้งความเอาผิดผู้รับเหมาร้องสื่อกล่าวหาทุจริตโครงการถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราของรัฐบาลในพื้นที่ภาคอีสาน

นายชัยรัชต์พงษ์  กุลรัตนจินดา พร้อมด้วยทนายความได้เข้าแจ้งความกับ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีกับน.ส.รักษยา แสงฤทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 21/6 ถนนกองพล 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหาหมิ่นประมาทตามมาตรา 326, 328  และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) จากกรณีที่ น.ส.รักษยา แสงฤทธิ์ ผู้รับเหมางานก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราในพื้นที่ภาคอีสาน ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ในช่วงกลางปี 2562 ได้ถูกปลัด อบต.แห่งหนึ่ง และคนใกล้ชิดอ้างชื่อผู้บริหารระดับสูงในกรมหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย เรียกรับเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทน จากการเข้าไปได้รับงานโครงการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราของรัฐบาลเป็นวงเงินเกือบ 60 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กของ น.ส.รักษยา แสงฤทธิ์ ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะได้โพสต์ข้อความในลักษณะหมิ่นประมาทตนและภรรยาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐว่า มีการรับเงินจำนวน 10-12 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนงบประมาณก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กและถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงด้วยยางธรรมชาติของกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นความเท็จ และก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะความจริงแล้วตนและภรรยา รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกกล่าวหา ไม่มีส่วนรู้เห็นในการเรียกรับเงินตามที่น.ส.รักษยากล่าวหาแต่อย่างใด

นายชัยรัชต์พงษ์  กล่าวว่า ในปี 2562 น.ส.รักษยา ได้มากู้ยืมเงินตนจำนวนหลายล้านบาท โดยมีหลักฐานเป็นสัญญาการกู้ยืมเงิน จึงคาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้น.ส.รักษยาออกมาให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณชน และยังพยายามบิดเบือนข้อมูลจากการติดค้างชำระเงินกู้ ให้กลายเป็นการเรียกรับเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทน เพราะไม่ต้องการจะชำระหนี้ที่ยังคงค้างจ่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตนและภรรยาไม่เคยเรียกรับเงินตามที่น.ส.รักษยากล่าวหาแต่อย่างใด อีกทั้งเรื่องดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูง ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นด้วย อย่างไรก็ตามตนถูกน.ส.รักษยากล่าวหาจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด