ปทุมธานี-พ่อเมืองประเดิมฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นคนแรกของจังหวัดตามด้วยบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มเสี่ยง ย้ำแรงงานต่างด้าวก็ต้องฉีดเพื่อไม่ให้เป็นพาหะแพร่เชื้อ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่โรงพยาบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีแลรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาทำพิธีส่งมอบวัคซีนให้แก่จ.ปทุมธานี โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี พร้อมทีมแพทย์พยาบาล และ อสม.ให้การต้อนรับ
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จ.ปทุมธานีกำหนดฉีดวัคซีนเข็มแรกในกลุ่มเป้าหมายดังนี้ คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของ รพ.ภาครัฐ มหาลัยและเอกชน จำนวน 1,500 คน 2.เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง ฝ่ายปกครอง ที่ร่วมดำเนินการในตลาดสุชาติและตลาดพรพัฒน์ จำนวน 1,000 คน 3.กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัวจำนวน 1,000 คน และ กลุ่มสุดท้าย คือประชาชนผู้ค้า ในตลาดสุชาติและพรพัฒน์ จำนวน 500 คน
ทั้งนี้ จ.ปทุมธานี ได้วางแผนการกระจายวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ผ่านกลไกของคณะกรมการโรคติดต่อจังหวัด บนพื้นฐานข้อมูลทางระบาดวิทยา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนในการต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดของโรค รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นในการรับวัดซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยได้นำร่องฉีดวัคซีนให้ประชาชน กลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ในจำนวน 200 คนแรก และจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจนครบ 4,000 คนแรก ของจ.ปทุมธานี และจะใช้ line official หมอพร้อมในการติดตามเฝ้าระวังอาการผลข้างเคียงภายหลังจากฉีดวัคซีน และแจ้งเตือนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข้มที่ 2 ซึ่งห่างออกไป 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นคนแรกของจังหวัดปทุมธานี ตามด้วย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี บุคลกรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขและ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามลำดับ
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนที่นำมาให้ต้องทำการฉีดให้บุคลกรทางการแพทย์ก่อน บุคลกรทางสาธารณสุข และบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ต้องไปให้การบริการกับผู้ป่วย การเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมีขั้นตอนหลายอย่าง ดังนั้นต้องทำให้เป็นไปตามขั้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดนั้นปลอดภัยที่สุด และต้องปฏิบัติตามขั้นตอน โดยวัคซีนจะต้องนำไปฉีดให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ขั้นตอนตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการทดลองระบบว่า ขั้นตอนในการฉีดจะยุ่งยากมากไหม หากยุ่งยากแล้วทำให้ช้าก็จะต้องทำการตัดขั้นตอนออกบ้างเพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
สำหรับ การฉีดชุดแรกๆนั้นทางรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในชาติ ถึงแม้จะเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีความเสียงทางรัฐบาลก็ต้องทำการฉีดให้แก่พวกเขาด้วย เพื่อไม่ได้เป็นพาหะนำเชื้อไปแพร่กระจายต่อ และขอย้ำกับประชาชนว่าวัคซีนที่นำมาฉีดนั้น รัฐบาลฉีดให้ประชาชนฟรีไม่มีความใช้จ่ายแต่อย่างใด หากพบผู้กระทำผิดมีการเรียกรับผลประโยชน์ในการฉีดวัคซีนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย