ขอนแก่น-ตร.เตรียมแจ้งข้อหาคนขับรถเก๋งพาน้อง"น้ำมนต์"อดีตรองนางสาวไทยไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 3 รายในม.ขอนแก่นข้อหาขับรถโดยประมาท
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและประชุมร่วมพนักงานสอบสวนจากเหตุรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ซูซูกิ สวิฟ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กย- 4074 กรุงเทพมหานคร เสียหลักชนต้นไม้ เหตุเกิดใกล้สี่แยกคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 3 ราย ประกอบด้วย นายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันธ์คำ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ น.ส.กรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม และผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นาย ถิรเดช กุลเขมรังษี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303 ม.1 ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี คนขับรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญหรือ น้องน้ำมนต์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 939 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รองนางสาวไทยปี 2562 เสียชีวิตที่ รพ.ศรีนครินทร์ ขณะนี้ครอบครัวได้รับศพน้องน้ำมนต์ นำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อย
พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า พนักงานสอบสวนสภ.ย่อย มข. ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด 2 จุดคือบริเวณทางเข้ามข.และบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ พบว่า รถคันเกิดเหตุขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงสี่แยกคณะนิติศาสตร์ มีรถยนต์กระบะจอดชะลอความเร็วเพื่อเลี้ยวขวา รถเก๋งจึงหักหลบเข้าซ้ายแล้วรถก็เสียหลักชนกับฟุตบาทข้างทาง และชนต้นประดู่ข้างถนน รถคว่ำหลังคารถฟาดกับต้นไม้ และไถลลงข้างทางจนมีคนตายคาที่ 2 ราย และเสียชีวิตที่ รพ.1 ราย คนขับบาดเจ็บสาหัส
" พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน เจ้าหน้าที่ รปภ.มข.ที่เข้าเวรยามใกล้จุดเกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ในช่วงเกิดอุบัติเหตุและช่วยเหลือคนเจ็บซึ่งให้การว่า รถคันเกิดเหตุขับมาด้วยความเร็ว เสียหลักชนต้นไม้ เมื่อไปตรวจสอบพบคนเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ในส่วนของรถคันเกิดเหตุนั้น เป็นรถที่มีชื่อของบิดาคนขับรถเป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ต่อ พ.ร.บ.ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดของคนขับรถด้วย"พ.ต.อ.ธนาวัชรกล่าว
พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวว่า จากากรสอบสวนทราบว่า น้องน้ำมนต์และเพื่อนพากันไปหาเพื่อนอีกคนที่บ้านพัก ในเขตตัวเมืองขอนแก่น จากนั้นก็พากันขับรถกลับเข้าใน มข. เพื่อจะกลับที่พัก และรถก็ประสบอุบัติเหตุ ขณะนี้พอจะสรุปได้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้นั้น เกิดจากการขับรถที่ประมาทและใช้ความเร็ว พนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหากับคนขับรถในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดออกมาว่ามีแอลกอฮอร์เกิดกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ในข้อหา ขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับตามกฎหมาย