ปทุมธานี-กรมควบคุมโรคเผยติดเชื้อโควิดสะสมจากตลาดพรพัฒน์แล้ว175 ราย คนไทย 111 ราย และต่างด้าว 64 ราย
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรดโควิด 19 ใน จ.สมทุรสาคร มีแนวโน้มลดลง หลังใช้แผนควบคุมโรค 3 ระยะ กทม.ยังพบผู้ป่วยขึ้นๆ ลงๆ แต่ที่ต้องจับตาคือ ปทุมธานีและตาก
ทั้งนี้ การระบาดใน จ.ปทุมธานีเกี่ยวข้องกับการตลาดพรพัฒน์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้สั่งปิดตลาดแล้ว จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกระหว่างวันที่ 9-13 ก.พ. จำนวน 1,333 ราย พบติดเชื้อสะสม 175 ราย แบ่งเป็นคนไทย 111 ราย และต่างด้าว 64 ราย ขณะนี้ยังตรวจคัดกรองเชิงรุกต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยรายแรกพบว่ามีการค้าขายที่สมุทรสาครและมาค้าขายที่นี่ด้วย ซึ่งการไปค้าขายในตลาดหลายแห่งทำให้เชื้อแพร่กระจายไปจุดต่างๆ ได้
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคพบว่า จุดที่มีการติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางตลาด มีการตั้งข้อสังเกตว่าหลังคาค่อนข้างเตี้ย ทำให้อากาศไม่ค่อยถ่ายเท มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ใส่หน้ากาก และเวลาอากาศร้อนอาจเผอเรอไม่ใส่หน้ากากด้วย ดังนั้น มาตรการสำคัญคือการลงทะเบียนระบุคนเข้าออก สวมหน้ากากตลอดเวลา และจัดการระบายอากาศที่ดี
นอกจากนี้ ยังพบผู้เกี่ยวข้องกับตลาดพรพัฒน์เชื่อมโยงไปจังหวัดอื่นจากการไปเยี่ยมญาติและค้าขายอีก 8 จังหวัด ได้แก่ นครนายก 7 ราย เพชรบุรี 3 ราย สระบุรี 2 ราย กทม. 2 ราย พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครราชสีมา และแพร่ จังหวัดละ 1 ราย ในจ.นครราชสีมา พบเด็กอายุ 7 ปี ติดจากแม่ที่ทำงานในตลาด ดังนั้น ผู้ที่เคยสัมผัสกับตลาดพรพัฒน์ช่วงวันที่ 9-13 ก.พ.หรือก่อนหน้านี้ 7 วัน ถ้าไม่แน่ใจหรือมีอาการสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโทรสายด่วน 1422 เนื่องจากหากรีบไปรับการตรวจและพบเชื้อ จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายได้
นพ.โอภาสกล่าวว่า กรณี อ.แม่สอด จ.ตาก จากการสอบสวนโรคตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. – 14 ก.พ. มีการพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และตรวจคัดกรองเชิงรุกในตลาดสีมอย ตลาดพาเจริญ ชุมชนอันซอร โรงงาน และซุ้มเลี้ยงไก่ชน พบผู้ติดเชื้อรวม 112 ราย เชื่อมโยงกับชาวพม่า 89.29% เป็นคนไทย 10.71%
สำหรับ จังหวัดได้ปิดพื้นที่บางส่วน และค้นหาเชิงรุกในชุมชนเพิ่มเติม ที่ต้องแจ้งเตือน คือ ในพื้นที่ที่มีการระบาด การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ 100% เป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งการเว้นระยะห่าง หากได้การแจ้งเตือนขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับคำแนะนำการปฏิบัติตัวหรือตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อควบคุมโรคได้รวดเร็วขึ้น