ภูเก็ต-คณะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตอนุญาตให้เรือประมง 17 ลำเข้าเทียบท่าได้ ส่วนเรือยอร์ชที่ขอขยายการตรวจลงตราSTVต้องยื่นศบค.ส่วนกลางพิจารณา

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าฯภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 13/2564 โดยมี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าฯภูเก็ต พล.ร.ต.รีวโรดม สุวารี รอง ผอ.รมน.จว.ภูเก็ต และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมฯ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จ.ภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกสองเป็นวันที่ 34 แล้ว ทางจ.ภูเก็ตจะคลายล็อกให้เข้ามาภูเก็ตได้โดยสะดวกแต่หลักการคือ การ์ดต้องไม่ตก ซึ่งผู้ว่าฯภูเก็ตจะลงนามคำสั่งให้ถือปฏิบัติ ทั้งนี้ทางจังหวัดยังเฝ้าระวังตรวจหาเชื้อกลุ่มที่มาจากพื้นที่สีแดงเข้ม 7 จังหวัดต่อเนื่อง โดยผู้ที่มาจากจังหวัดกลุ่มสีแเดงเข้มและกลุ่มพื้นที่จังหวัดสีอื่นๆเมื่อเข้ามาภูเก็ตแล้ว ต้องระมัดระวังในการดูแลตนเองอย่างเข้มงวด และจากการรายงานการตรวจคัดกรองโรคตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผลการตรวจคัดกรองโรคและตรวจหาเชื้อผู้ที่เข้ามาทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19

สำหรับ การประชุมครั้งนี้ที่ประชุมพิจารณาขออนุญาตนำเรือประมงเข้ามาเทียบท่า๗งภูเก็ต กรณีที่เรือประมงบางลำยังติดในคำสั่งจังหวัดที่ 7323/2563 ในการควบคุมป้องกันการระบาดโรคโควิด-19 ไม่สามารถนำเรือประมงเข้าได้นั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้นำเรือเข้ามาเทียบท่าภูเก็ตได้ตามที่ขอมาจำนวน 17 ลำ พร้อมรายชื่อลูกเรือประมงตามที่เสนอมา

นอกจากนี้ ที่ประชุมพิจารณาขอให้มีการขยายการตรวจลงตรา Special Tourist Visa (STV) on arrival สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยกับเรือสำราญและกีฬา ทางสมาคมเรือยอร์ชไทยได้ขอขยายเวลาให้เรือเข้าอีก 12 ลำจากมัลดีฟส์ สิงคโปร์และมาเลเซียเข้ามา ซึ่งทางจังหวัดต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในเรื่องนี้อยู่นอกเหนืออำนาจของจังหวัดเป็นอำนาจของศบค.ส่วนกลาง ได้ให้สมาคมเรือยอร์ชไทยทำหนังสือถึงจังหวัดในการขอขยายระยะเวลาการตรวจลงตรา STV เพื่อทางจังหวัดจะได้เสนอตามขั้นตอนต่อศบค.ส่วนกลางพิจารณาต่อไป