นครราชสีมา-เรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุโผล่ที่โคราชอีก 2 รายเป็นคุณยายวัย 83 ปีทั้งคู่ถูกเรียกคืนเงินกว่า 8 หมื่นบาท คนในหมู่บ้านเผยโดนเรียกเก็บคืนเงินผู้สูงอายุแล้วอย่างน้อย 5 ราย
เมื่อวันที่ 26 มกราคม น.ส.วรรณภา สารเป็น อายุ 28 ปี บุตรสาวของนางสัมฤทธิ์ ภู่สว่าง อายุ 83 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.สมหมาย สมบูรณ์รัมย์ อายุ 60 ปี บุตรสาวของ นางก่วง สมบูรณ์รัมย์ อายุ 83 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.จอหอ ได้เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวหลังจากที่ทั้งสองครอบครัว ถูกทางเทศบาลตำบลจอหอเรียกเก็บคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ นางสัมฤทธิ์ อายุ 83 ปี ถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2549 ถึงเดือน พ.ย.2563 รวมแล้วเป็นระยะเวลานานกว่า 14 ปี รวมเป็นเงินพร้อมดอกเบี้ย 83,383 บาท ส่วนนางก่วง อายุ 83 ปี ถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 จนถึงเดือนพ.ย.2563 เป็นระยะเวลากว่า 14 ปีเช่นเดียวกันรวมเงินพร้อมดอกเบี้ย 84,673 บาท
สำหรับ นางสัมฤทธิ์ และนางก่วงได้รับเงินบำนาญพิเศษจากสามีที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ และถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้อนหลังเช่นเดียวกัน ล่าสุดนางสัมฤทธิ์ และนางก่วง ได้ถูกหมายเรียกจากศาลแขวงนครราชสีมาเพื่อการไกล่เกลี่ย การแก้ข้อหาแห่งคดี และสืบพยานในวันที่ 18 ก.พ.
ด้าน น.ส.วรรณภา สารเป็น บุตรสาวของนางสัมฤทธิ์ หนึ่งในผู้ถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นหนังสือเรียกทวงคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของแม่ คนในครอบครัวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะในตอนแรกที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แม่ไม่ได้ตั้งใจไปยื่นเรื่องขอรับเงินแต่อย่างใด แต่มีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลจอหอ เป็นผู้ดำเนินการเรื่องเอกสารให้ทุกอย่าง แม่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย คิดว่าเป็นเงินส่วนที่พึงจะได้ กระทั่งมีหนังสือถูกเรียกขอคืนเงินดังกล่าว หลังจากได้รับหนังสือ ตนและแม่ได้เข้าไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาล โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้จ่ายเงินคืน 3 เดือนแรกงวดละ 18,000 บาท จากนั้นให้ทยอยผ่อนชำระในส่วนที่เหลืออีกประมาณเดือนละ 1,000 บาท
น.ส.วรรณภา กล่าวว่า อยากจะขอผ่อนชำระในจำนวนเงินที่น้อยลงกว่านี้ อาจปรับลงเป็นเดือนละ 500-600 บาท ถ้าจะให้ผ่อนชำระในเดือนละ 18,000 บาท จะมีเงินไม่เพียงพอจะใช้จ่ายในแต่ละวัน ยืนยันว่ายินดีและพร้อมที่จะผ่อนชำระ แต่ถ้าจะให้ชำระเป็นเงินก้อนคงจะคืนให้ไม่ไหวโดยวันที่ 18 ก.พ.นี้ตนพร้อมแม่จะเดินทางไปที่ศาลแขวงนครราชสีมา เพื่อขอให้ศาลช่วยพิจารณาและมอบความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้าน ทราบว่า ยังมีคนในเขตเทศบาลตำบลจอหออีกอย่างน้อย 5 รายที่ถูกทางเทศบาล เรียกเก็บคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวก็ได้รับเรื่องเรียนจาก นายมฤคินทร์ เขียนจอหอ อายุ 42 ปี บุตรชายของนางประจวบ ผะดาวัลย์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่3 ต.จอหอ ว่าถูกขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ทางภาครัฐจ่ายให้กับนางประจวบผู้เป็นแม่ โดนเรียกเก็บย้อนหลังตั้งแต่เดือนเม.ย.2552 ถึงเดือนพ.ย.2563 เป็นระยะเวลานานกว่า 11 ปี เมื่อรวมดอกเบี้ยทั้งหมดแล้ว จะเป็นเงิน จำนวน 77,737 บาท โดยครอบครัวของนางประจวบ ก็ยินดีที่จะเดินทางไปที่ศาลแขวงนครราชสีมาตามนัดหมาย เพื่อขอให้ศาลช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยเช่นเดียวกัน