ภูเก็ต-ผู้ว่าฯเรียกประชุมด่วนสั่งคุมเข้มแรงงานต่างด้าวหวั่นซ้ำรอยจ.สมุทรสาคร พร้อมเตรียมจัดประชุมสมาคมประมงเช็กข้อมูลรายละเอียดไปค้าขายที่ตลาดกุ้งมหาชัย
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมด่วนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 56/2563 มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมพิจารณามาตรการการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มแรงงานต่างด้าวของประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเร่งด่วนเนื่องจากมีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาของจังหวัดสมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนกว่า 500 คน โดยจังหวัดภูเก็ต เคยเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสองของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นมีมาตรการรองรับจากเบาไปหาหนัก และเราไม่อยากไปเจอเหตุการณ์อย่างนั้นอีก ประเด็นคือ แรงงานต่างด้าวที่เป็นชาวพม่า แหล่งแพร่เชื้อที่จังหวัดสมุทรสาคร จะสามารถควบคุมคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ต คือ ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร เรามีผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งจังหวัดภูเก็ต ที่จำเป็นจะต้องส่งกุ้งเข้าไป ยังตลาดกุ้งที่จังหวัดสมุทรสาคร ทุกวัน รวมถึง สมาคมประมงที่จะต้องส่งอาหารทะเลเข้าไปตลาดทะเลไทยที่สมุทรสาคร
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ธ.ค.เวลา 13.30 น. ทางจังหวัดจะเชิญผู้ประกอบการเรือประมง ผู้ประกอบการค้ากุ้ง ทั้งหมดประชุมหารือร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด ที่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจำกัด เพื่อขอความร่วมมือส่วนที่เกี่ยวข้องให้รวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 มีจำนวนรถกี่คัน ที่ทำการขนส่งสินค้าประมงไปที่จังหวัดสมุทรสาคร มีคนขับรถกี่คน เมื่อกลับมาแล้วมีอาการอย่างไรบ้าง มีผู้สัมผัสกี่คน ต้องการข้อมูลพร้อมรายชื่อคนเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อให้สาธารณสุขเข้าไปตรวจคัดกรองเบื้องต้นว่ามีใครที่มีอาการสุ่มเสี่ยงต้องเข้าไปควอรันทีนหรือจะต้องมีมาตรการใดที่ประเมินเบื้องต้น ถ้าได้รับความร่วมมือทั้งหมดคาดว่าสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ว่าที่ร้อยตรี วิกรม กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าวเชิงรุก โดยเตรียมการเรื่องนี้มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วก่อนที่จะเจอที่จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากได้รับข่าวว่า มีแรงงานที่มาทำงานที่ภูเก็ตได้หลบหนีไปประเทศเมียนมาร์ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 และได้หนีกลับเข้ามาในช่องทางธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โดยทางจังหวัดได้หารือกับจัดหางานจังหวัดและผู้ประกอบการนายจ้างทั้งหมดจำนวนกว่า 160 คน ที่ได้โควต้าแรงงานต่างด้าวไว้แล้วว่า ถ้าพบลูกจ้างที่หายกลับบ้านไปกลับเข้ามาอีกให้ช่วยแจ้งทางจังหวัดที่ ศูนย์ดำรงธรรม หมายเลข 1567 เพื่อจะให้สาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบและสอบสวนโรคโควิด-19และจะให้ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยเฝ้าระวังพื้นที่ ประสานผู้ประกอบการโรงแรม หากพบเจอแรงงานต่างด้าว ที่ต้องสงสัยหรือสิ่งผิดปกติขอให้รีบแจ้งมาโดยเร็วที่สุด เพื่อตรวจคัดกรองสอบสวนโรคโควิด-19 และแจ้งเตือน และขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนให้เพิ่มความระมัดระวังการใช้ชีวิตประจำวัน ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
"มาตรการต่อไปจะเพิ่มความเข้มการเข้าออกภูเก็ตทั้งทางบกที่ด่านท่าฉัตรไชย , ทางน้ำ ที่ท่าเรือทุกแห่ง และ ทางอากาศ ที ท่าอากาศยานภูเก็ต ยอมรับว่า ตอนนี้ บางส่วนการ์ดตก กับผู้ที่เข้ามาให้กลับไปคงมาตรการเข้มเหมือนเดิม จะนำกำลังฝ่ายปกครองเข้าไปช่วยเสริมกำลังตำรวจที่ด่านท่าฉัตรไชย และ ประสาน อสม.ตรวจวัดไข้ เพื่อมุ่งหวังในเชิงป้องปรามและควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนจังหวัดภูเก็ต" ว่าที่ร้อยตรีวิกรม กล่าว