เพชรบุรี-เมืองเพชรร่วมประกอบพิธี
เมื่อวันที่29 พฤศจิกายน ที่บริเวณเสาชิงช้า วัดเพชรพลี อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย พระครูวัชรชัยธรรม เจ้าอาวาสวัดเพชรพลี นำหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนชาวเพชรบุรี ประกอบพิธี "โล้ชิงช้าพุทธคัลไลฟ้า"ย้อนอดีตเมืองพริบพรี เริ่มด้วยอันเชิญพระพุทธคัลไลฟ้า ด้วยขบวนแห่อย่างสวยงานจากการแต่งตัวย้อนยุค ออกจากวิหารมาประกอบพิธีโล้ชิงช้า เมื่ออัญเชิญพระพุทธคัลไลฟ้า ขึ้นสู่ชิงช้าแล้วได้มีการร้องบทกลอนเห่ โล้ชิงช้า เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่จ.เพชรบุรี และขอให้ประเทศชาติบ้านเมืองกลับมาสู่ความสงบสุขเจริญรุ่งเรืองต่อไป
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า วัดเพชรพลี เดิมเรียกว่า “วัดพริบพรี” ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่า จะเป็นวัดโบราณวัดหนึ่ง เพราะมีชื่อเดียวกับชื่อจ.เพชรบุรี สมัยก่อนเรียกเมืองเพชรว่า "เมืองพริบพรี" ชาวต่างประเทศเรียกกันมาแต่โบราณ และน่าจะเป็นเทวสถานที่สร้างในสมัยสุโขทัย ที่พุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่มายังสุวรรณภูมิ พร้อมๆ กับอีกหลายแห่งในกลุ่มบริเวณนี้ เช่น วัดกำแพงแลง วัดสนามพราหมณ์ ซึ่งเคยรุ่งเรืองมาในสมัยขอม มีเทวาลัย ก่อนจะมาเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง
ทั้งนี้ วัดเพชรพลียังมีชื่อเสียงคือ เสาชิงช้า และเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เป็นสิ่งสำคัญของศาสนาพราหมณ์ บริเวณเสาชิงช้า แต่เดิมเคยเป็นนิคมชาวพราหมณ์ตระกูลพราหมณ์รามราช หรือพราหมณ์เจาะหูอยู่อาศัย จึงมีเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ ครั้งก่อนคงมีการประกอบพิธีสำคัญๆ ฝ่ายพราหมณ์ในเมืองเพชรบุรีมาแต่โบราณ เพราะใกล้กับเสาชิงช้า เคยมีโบราณสถานเรียกว่า โบสถ์พราหมณ์ เป็นหลักฐานอยู่ และยังปรากฏจากหลักฐานในนิราศเมืองเพชร ของสุนทรภู่ ปัจจุบันพระครูวัชรชัยธรรม เจ้าอาวาสได้จัดสร้างเสาชิงช้าขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ.2550
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า สำหรับพิธีโล้ชิงช้าพระพุทธคัลไลฟ้าจัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีโล้ชิงช้าที่มีมาแต่โบราณกาลและเพื่อให้ชาวเพชรบุรีและชาวไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในการอยู่ร่วมกันของชุมชนเมืองพริบพรี (เพชรบุรี) อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัด ซึ่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นฐานข้อมูลสำคัญที่ทำให้ได้รู้ถึงความเป็นมา รู้ถึงวิถีการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีโล้ชิงช้าที่มีมาแต่โบราณกาล