ขอนแก่น-สาวงงนั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้านจู่ๆมีข้อความมาทวงเงินใส่อารมณ์หากไม่คืนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เจ้าตัวโร่เข้าแจ้งความตรวจสอบธนาคารพบว่ามีคนชื่อ- สกุลซ้ำไปเปิดบัญชีถึง 6 ราย วอนตำรวจสอบสวนดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น.ส.ชลธิชา แจ่มเจริญ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 ม.1 บ้านแคนเหนือ ต.แคนเหนือ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นำเอกสารจากธนาคาร สาขาอ.บ้านไผ่ 2 แห่งเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. อำนาจ เชาเทอรี่ สว.(สอบสวน )สภ.บ้านไผ่ ว่า ถูกคนทักผ่านเฟซบุ๊กทวงเงิน และกล่าวหาว่าโกงเงิน จึงเข้าแจ้งความว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่รู้เห็นในเรื่องที่ถูกกล่าวหา

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า เคยทำงานในโรงงาน และเล่นเฟซบุ๊กมาตลอด ในเฟซบุ๊กมีเพื่อนหลากหลาย แต่ไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งออกจากงาน กลับมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก และทำงานบ้าน โดยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ได้ประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก 2 ราย แชทมาทวงเงิน รายแรก อยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ทวงเงินจำนวน 3,500 บาท รายที่ 2 อยู่ที่ จ.มหาสารคาม ทวงเงิน 1,000 บาท รายที่ 2 นั้นต่อว่าด้วยคำหยาบคาย

"จากการสอบถามจากทั้ง 2 ราย ทราบเพียงว่า มีการออมเงิน และโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารออมสิน ในชื่อบัญชี ชลธิชา แจ่มเจริญ จึงแปลกใจ เพราะไม่มีใครโอนเงินผ่านบัญชีของตัวแต่อย่างใด จึงได้เข้าตรวจสอบกับทางธนาคารออมสิน สาขาบ้านไผ่ ที่เปิดบัญชีไว้ ธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่า มีชื่อเดียวกัน นามสกุลเดียวกัน เปิดบัญชีธนาคารออมสินตรงกัน 6 ราย ซึ่งทั้ง 6 ราย มีชื่อตรงกัน นามสกุลตรงกัน แต่หมายเลขบัญชีไม่ตรงกัน เลขบัตรประชาชน 13 หลักก็ไม่ตรงกัน ธนาคารจึงออกเอกสารให้ และนำมาเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ ขอยืนยันว่าไม่มีเกี่ยวข้องกับเงินที่ถูกกล่าวหาว่าโกง แม้แต่บาทเดียว และไม่มีใครโอนเงินเข้าบัญชีมาให้ด้วย"น.ส.ชลธิชา

ทั้งนี้ การถูกกล่าวหาจากบุคคลอื่นว่าโกงนั้น เป็นเพราะชื่อ นามสกุลตรงกัน ซึ่งไม่มีความกลัว แต่จะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นคนทำ ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องเดือดร้อน จึงขอให้ตำรวจตรวจสอบ จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย