THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

05 ตุลาคม 2563 : 16:58 น.

กาญจนบุรี-ผู้ว่าฯกาญจน์ประกาศปิดด่านพระเจดีย์สามองค์ต่ออีก 14 วัน หลังโควิด-19 ในเมียนมาระบาดสูงขึ้นต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อไทย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3967/2563 เรื่อง ขยายเวลาการกระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แพร่ระบาดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อชายแดน และมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7(1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการพิจารณาการเปิด ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ จังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้ 

1.ขยายเวลาการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2563 

2.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2(1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539   

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2563 สั่ง ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2563 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ