สุราษฎร์ธานี-ชาวประมงพื้นบ้านโวยการจัดระเบียบอ่าวบ้านดอนของทัพเรือภาคที่ 2 ล้มเหลว อาชีพเลี้ยงหอยรวมทั้งขนำคอกหอยที่เป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ถูกทำลายหมดสิ้นทั้งอ่าว ปล่อยให้เรือประมงอวนรุนผิดกฎหมายคราดหอยทำลายวงจรชีวิตสัตว์น้ำ
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เดินทางมาร่วมประชุมกับนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผวจ.สุราษฎร์ธานี และตัวแทนชาวบ้านทั้ง 7 คน กรณีการแก้ไขปัญหาอ่าวบ้านดอน ณ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ในวัดชลธาร ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ที่ประชุมชี้แจงชาวบ้านว่า ศรชล.ยังคงอยู่ต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกอ่าวบ้านดอน ตามกฎหมายและเป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ส่วนการทำประมงผิดกฎหมายขอรับข้อเสนอชาวบ้านให้แจ้ง ศรชล.จะดำเนินการประสานตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ประมงดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย ส่วนขนำที่ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว 176 หลัง ในวันที่ 1ก.ย.จะเริ่มรื้อถอนขอให้เจ้าของมาแสดงตนก็จะยังไม่รื้อและให้สู้อุทธรณ์ตามกฎหมาย
พล.ร.ท.สำเริง กล่าวว่า ในวันที่ 1 ก.ย.จะรื้อขนำตามกำหนดเดิม จะรื้อขนำที่ไม่มีเจ้าของรก่อน ส่วนที่แสดงตนให้ไปดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนข้อเรียกร้องการทำหน้าที่ของ ศรชล.เราจะอยู่ที่นี้เหมือนเดิมจนกว่าจะเสร็จภารกิจ ส่วนที่ชาวบ้านคัดค้านการตั้ง ศรชล.อ้างว่าทำลายวิถีชีวิตการทำมาหากินได้ชี้แจงให้เข้าใจแล้ว ซึ่งการจับกุมเรือประมงผิดกฎหมาย ศรชล.ไม่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการไม่มีผู้บังคับการเรือเป็นเรือตรวจสอบตามลำน้ำ ซึ่งเป็นที่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประมง ให้ชาวบ้านแจ้งมาทางกองอำนวยการร่วม ศรชล.จะประสานประมงไปดำเนินการจับกุม
ชาวบ้านคนหนึ่งแจ้งว่า ข้อเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้านที่เสนอให้มีการแบ่งแนวเขตพื้นที่ชายฝั่งเพาะเลี้ยงหอย จะลดปัญหาความขัดแย้งทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ สามารถดำรงอาชีพและวิถีชีวิตได้ตามเดิม ไม่มีคำตอบและชี้แจงจาก ศรชล.และผู้เกี่ยวข้อง ทำให้เห็นว่าระเบียบและข้อกฎหมายที่นำมาใช้ได้ทำลายอาชีพเลี้ยงหอยที่มีมาช้านานนับสิบปี รวมทั้งขนำคอกหอยที่เป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่หลายชั่วอายุคนถูกทำลายหมดสิ้นทั้งอ่าว และเมื่อไม่มีคนเฝ้าคอกหอยได้มีเรือประมงอวนรุนผิดกฎหมายและเรือประมงใหญ่คราดหอยทำลายวงจรชีวิตสัตว์น้ำ แต่หน่วย ศรชล.ที่มีเรือลาดตระเวนมีกำลังเจ้าหน้าที่กลับไม่ดำเนินการอะไร จึงรู้สึกผิดหวังกับหน่วยงานของรัฐมาก