สมุทรสงคราม-"วราวุธ"สั่งเดินหน้ายึดพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกนายทุนบุกรุกกลับคืนมา ขณะที่ "กรมทะเล”สนธิกำลังกว่า 100 นายทวงคืนได้เพิ่ม 205 ไร่
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังรวมกว่า 100 นาย ตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าชายเลนในเขตป่าชายเลนบ้านต้นแพน ท้องที่หมู่ 3 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เนื้อที่รวมกว่า 205-1-48 ไร่ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่า และฟื้นฟูป่าไม้ทั่วประเทศให้กลับคืนมาสู่สภาพสมบูรณ์ พร้อมสั่งเร่งตรวจสอบผืนป่าทั่วประเทศ หากบุกรุกยึดคืนทั้งหมด ไม่ต้องเกรงกลุ่มนายทุนหรืออิทธิพลใด ทุกอย่างดำเนินการอย่างยุติธรรมและโปร่งใสเป็นสำคัญ
นายวราวุธ กล่าวว่า ผืนป่าประเทศไทยในปัจจุบันมีประมาณ 102.49 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ ถือว่าไม่มากนัก โดยเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ พื้นที่ป่าไม้จะต้องเพิ่มเป็นเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ หรือ 129.41 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ร้อยละ 25 และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ร้อยละ 15 พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มจาก 1.53 ล้านไร่ เป็น 1.58 ล้านไร่ อีกทั้ง พื้นที่ปลูกและฟื้นฟูป่าต้นน้ำเพิ่มขึ้น ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้กำหนดขึ้นมาลอย ๆ แต่เป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น เพียงแต่เราต้องทำงานกันอย่างหนักและจริงจัง การเพิ่มผืนป่าทำได้ทั้งการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม และการยึดคืนพื้นที่บุกรุกเพื่อนำกลับมาพลิกฟื้นคืนความสมบูรณ์
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการฟื้นฟูผืนป่าที่อยู่ในความรับผิดชอบ และตรวจสอบผืนป่าทั่วประเทศ หากพบมีการบุกรุก ให้ดำเนินการตรวจยึดทันที ไม่ต้องเกรงกลัวว่าเป็นของกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลใด ๆ ผิดก็คือผิด แต่หากพื้นที่ใดยังไม่ชัดเจนต้องตรวจสอบและให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย ต้องดำเนินการด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนขาดแคลนที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย รัฐบาลยังมีโครงการจัดหาที่ดินเพื่อทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลก็กำลังเร่งรัดดำเนินการ สุดท้ายตนอยากฝากไว้ว่า “การบุกรุกทำลายป่า เป็นการใช้สมบัติส่วนรวมเพื่อประโยชน์ส่วนตน ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า ผืนป่าทุกตารางนิ้วมีเจ้าของ คือ คนไทยทุกคน พี่น้องประชาชนมีสิทธิปกป้องและทวงคืนสมบัติของตนคืน หน่วยงานภาครัฐเป็นเพียงผู้ที่ดูแลและดำเนินการรักษาสมบัติของทุกคนให้คงอยู่และสมบูรณ์ตราบนานเท่านาน หากพบเห็นให้แจ้งผู้รับผิดชอบทันที เราจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ยึดถือกฎหมายและความถูกต้องเป็นสำคัญ
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวภายหลังจากการเป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจยึด “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” ณ พื้นที่โครงการแก้มลิงทุ่งหินด้านทิศใต้ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้สนธิกำลังร่วมกับหลายหน่วยงานกว่า 100 นายลงพื้นที่ตรวจสอบและตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าชายเลนบ้านต้นลำแพน ท้องที่หมู่ 3 บ้านต้นลำแพน เนื้อที่รวมกว่า 205-1-48 ไร่ สภาพพื้นที่มีการขุดลักษณะเป็นบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีการขุดคันดินเป็นบ่อขนาดใหญ่หลายบ่อ และมีการขุดร่องน้ำ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 253 คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,301,432 บาท พร้อม สั่งการให้ นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนรองอธิบดี ทช.และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 - 7 ให้เร่งตรวจสอบผืนป่าชายเลนทั่วประเทศหากพบการบุกรุกให้รายงานตนทันที และดำเนินการตามกฎหมายอย่างไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับ การปฏิบัติการครั้งนี้ นายวราวุธ และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบรัดกุม อีกทั้งท่านได้แสดงความขอบคุณกับทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติงานและเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วง สุดท้าย ตนอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่พบเห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน หรือการกระทำใดที่ผิดกฎหมายทำลายทรัพยากรฯขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทาง ตนจะเร่งรัดตรวจสอบและดำเนินการในทันที และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ตนจะดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานความถูกต้องตามกฎหมาย ยุติธรรม และโปร่งใส