ตราด-เรือประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านกว่า 300 ลำต้องจอดนิ่งหลบคลื่นลมแรงออกทะเลหากินไม่ได้เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนซินลากู

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ท่าเรือประมงในอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด ปรากฎว่ามีเรือกว่า 300 ลำต้องจอดเทียบท่าหยุดออกทำประมงเป็นวันที่ 2 หลังเกิดคลื่นลมแรงในพื้นที่อ่าวไทยจนไม่สามารถออกทำประมงได้ โดยที่ท่าเรือบ้านศาลเจ้า ต.หาดเล็ก เรือประมงพื้นบ้านกว่า 50 ลำต้องหยุดทำประมงไปโดยปริยาย เนื่องจากเป็นเรือประมงขนาดเล็ก และหากินตามแนวชายฝั่ง โดยการวางอวนลอยปลา กุ้งและปู โดย นายเพียโร สังข์ทอง ชาวประมงหาดศาลเจ้า กล่าวว่า คลื่นทะเลมีความรุนแรงทำให้เรือประมงวางอวนลอยออกไปทำประมงไม่ได้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งต้องรออีก 2-3 วันหรือเลยวันที่ 6 ส.ค.ไปแล้วคลื่นจึงสงบ

ขณะที่ท่าเรือกัลปังหา และท่าเรือชลาลัย ต.หาดเล็ก ก็มีเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่กว่า 300 ลำ ต้องจอดเรือเพื่อรอให้คลื่นสงบ เพราะในช่วง 2 วันทีทผ่านมามีคลื่นลมแรงมากในทะเลหน้าเกาะกูด ทำให้ไม่สามารถทำประมงได้ส่งผลให้ไต๋เรือต้องสั่งให้ลูกเรือทำการซ่อมแซมอวนและเครื่องมือทำประมงเพื่อรอคลื่นให้สงบ ส่วนที่ท่าเรือบ้านคลองมะขาม ต.หาดเล็ก ที่เป็นเรือประมงพื้นบ้านต้องจอดเรือรอคลื่นลมสงบกว่า 200 ลำ นายฉลอง บุญรอด ชาวประมงพื้นบ้านคลองมะขาม กล่าวว่า ต้องหยุดทำประมงไปก่อน รอให้คลื่นลมสงบก่อนซึ่งยังไม่รู้ว่าจะออกได้เมื่อไหร่ ซึ่งมรสุมลูกนี้เป็นลูกแรกที่เข้ามายังฝั่งอ่าวไทย

นายวิระฉัตร ลีละกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าเขต 6 สาขาตราด กล่าวว่า ระยะนี้ทะเล จ.ตราดมีคลื่นลมแรง ไปจนถึงวันที่ 6 ส.ค.ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการเดินเรือทราบแล้ว หากยังรุนแรงอยู่จะงดให้เรือโดยสารออกจากฝั่ง ซึ่งเมื่อบ่ายวานนี้มีเรือสปีดโป๊ทจากเกาะหมากไม่สามารถเดินทางมาฝั่งอ.แหลมงอบได้เพราะคลื่นลมแรง ต้องรอจนกว่าคลื่นสงบในช่วงเย็น การเดินทางจากเกาะหมากมีอันตรายหากมีคลื่นสูง ส่วนเรื่องที่มีการร้องเรียนเรือประมงที่อ่าวสับประรดมาจอดหลบคลื่นลม และขวางการเดินเรือเฟอร์รี่นั้น ได้แจ้งให้เรือประมงหลบหลีกแล้ว และได้ให้เรือเฟอร์รี่ได้หลบหลีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพราะเรือประมงก็จำเป็นต้องหลบคลื่นลมด้วย