นครพนม- ชุด ฉก.ทหารพรานสกัดจับเอเย่นยาบ้าข้ามชาติ รายสำคัญยึดกว่า 7 หมื่นเม็ดพบโพยส่งลูกค้าทั่วอีสาน เร่งขยายผลคุมเข้มชายแดนรอบปียึดแล้วกว่า 5 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่กองร้อยทหารพราน 2102 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.อ.พิทักษ์พล. ชูศรี ผู้บังคับการชุดเพาะกิจทหารพรานที่ 21  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าข้ามชาติรายสำคัญ คือ นายนายนิพลธ์ ชื่นชม อายุ 21 ปี ชาวบ้านท่าหนามแก้ว ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ยึดของกลางยาบ้า จำนวน 72,000 เม็ด ยาไอซ์ 500 กรัม และกัญชาอัดแท่ง จำนวน 1 กิโลกรัม  รวมมูลค่าของกลางไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ จับกุมได้ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นเครือข่ายติดต่อซื้อขายยาบ้าข้ามชาติรายสำคัญ ที่ประสานงานลักลอบนำเข้ายาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงสืบสวนวางแผนติดตามจับกุมได้ขณะผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน 1กล 8751 สกลนคร มาตามเส้นทาง ระหว่างเข้าหมู่บ้านท่าหนามแก้ว ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน เจ้าหน้าที่สกัดตรวจค้น ผู้ต้อหาพยายามขับรถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ไม่สามารถหลบหนีได้ ตรวจค้นพบซุกซ่อนยาบ้าในรถจักรยานยนต์ จำนวน 20,000 เม็ด ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพัก ตรวจยึดยาบ้าได้อีก จำนวน 52,000 เม็ด รวมเป็น 72,000 เม็ด

นอกจากนี้ ยังตรวจยึด ยาไอซ์ 500 กรัม และกัญชาอัดแท่ง จำนวน 1 กิโลกรัม ที่สำคัญยังตรวจค้นพบโพยรายการส่งลูกค้า ในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคอีสาน ซึ่งจะได้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยพบว่าเป็นเครือข่ายรายสำคัญ ที่มีการลักลอบนำยาบ้าเข้ามาพักก่อนนำส่งต่อไปขายพื้นที่ตอนใน เงินหมุนเวียนเดือนละหลายล้านบาท

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำหน้าที่รับจ้างจากนายทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้ติดต่อลูกค้าฝั่งไทย เพื่อซื้อขาย ลักลอบนำเข้ายาบ้าเพื่อนำมาพักไว้ที่บ้าน และทำหน้าที่รับส่งยาบ้าตามแนวชายแดน เพื่อส่งต่อให้ลูกค้าที่เป็นเครือข่าย ซึ่งมีลูกค้ามาติดต่อซื้อขายหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 – 30,000 บาท จะใช้วิธีติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มารับ จะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เนื่องจากมีเครือข่ายเป็นผู้ติดต่อประสานงาน มีหน้าที่เพียงรับยาบ้ามาพักรอการส่งต่อ  ทำไปเพราะคิดว่ารายได้ดี เนื่องจากไม่มีอาชีพเป็นหลัก ไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจรับจ้างติดต่อซื้อขายยาบ้า

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการ จากหลักฐานโพย ในพื้นที่หลายจังหวัดของอีสาน เร่งจับกุมเครือข่ายมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบรามจับกุม ในพื้นที่แนวชายแดน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดต่อเนื่อง จากสถิติในรอบปีที่ผ่านมาพื้นที่ ชายแดน จ.นครพนม มีการตรวจยึดยาบ้ามากกว่า 5 ล้านเม็ด ยิ่งในช่วงฤดูฝน พบว่าเริ่มมีการฉวยโอกาสลักลอบมากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีอุปสรรคในการลงพื้นที่ลาดตระเวน ปราบปรามจับกุม บวกกับน้ำโขงเพิ่มระดับ ทำให้สะดวกในการลักลอบขนส่งนำเข้ามาพักได้ง่าย