THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

12 กรกฎาคม 2563 : 14:47 น.

ภูเก็ต-ภูเก็ต-"สิระ เจนจาคะ"กัดไม่ปล่อยนำคณะกมธ.กฎหมายฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการ เดอะพีค เรสซิเดนซ์ ย้ำทำตามหน้าที่เตรียมเรียกเจ้าของโครงการชี้แจงซ้ำ พร้อมให้ป.ป.ช.เอาผิดเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื้่อติดตามตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างโครงการ เดอะพีค เรสซิเดนซ์ จ.ภูเก็ต

นายสิระ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯได้ทราบปัญหาความเดือดร้อนจากการบุกรุกที่ดินทำกินรวมถึงตรวจสอบความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง จากการก่อสร้างโครงการฯดังกล่าว การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของโครงการฯว่าได้หยุดการก่อสร้างตามคำสั่งฯ หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการระงับการก่อสร้างโครงการฯและการเตรียมฟื้นฟูสภาพป่าไม้ที่ได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้รับหนังสือเรื่องความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดภูเก็ต กรณีการก่อสร้างอาคารโครงการห้องชุด เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ จังหวัดภูเก็ต ที่ ภก 0017.1/18941 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2562 เรื่องการรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ของบริษัท กะตะบีช จำกัด ตั้งอยู่บนที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งบริเวณพื้นที่ป่าสมบูรณ์ยังคงได้รับผลกระทบจากโครงการฯ เนื่องจากตรวจสอบแล้วว่า การดำเนินการของโครงการณ ไม่ได้หยุดการก่อสร้างตามคำสั่งฯ ของหน่วยงานราชการ ยังมีการแอบลักลอบก่อสร้างต่อเติมเรื่อยมา ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำป่าทะลัก ดินโคลนไหลหลาก เนื่องจากโครงการอยู่พื้นที่ลาดเชิงเขาประชาชนบริเวณหน้าชายหาดได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ

นอกจากนั้นยังได้รับ หนังสือ ที่ ยธ 0809.3/510 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ 266/2560 ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก)ดังกล่าว เนื่องจากคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดินที่ให้ยกเลิกคำขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) และดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

นายสิระ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลในปัจจุบัน คือ สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติบริเวณโดยรอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม ได้ถูกทำลาย และระบบนิเวศน์ ทางเดินทางน้ำต่างๆ ไม่เป็นดังเดิม เดิมเมื่อฝนตกต้นไม้ปกคลุมดินบนหน้าผาจะซึมซับน้ำเอาไว้ ลดความรุนแรงของการเคลื่อนไหวของน้ำที่จะไหลหลากด้วยความเร็วก่อนจะลงมายังหน้าหาด หรือ ถนนทางเดินสาธารณะ จากการลงพื้นที่พบว่าหลังก่อสร้างโครงการฯดังกล่าว ได้เกิดร่องรอยของดินโคลนถล่ม น้ำไหลหลาก โคลนจากภูเขา เศษหิน และยังมีเศษอิฐบางส่วนจากงานก่อสร้างถูกนำพาลงมากับน้ำ ลงมาที่บริเวณหน้าชายหาด ซึ่งตนกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในระยะยาวได้

นอกจากนี้พบว่า ที่ดินของโครงการตั้งอยู่ในเขตภูเขา มีความลาดชันเฉลี่ยเกิน 35% และมีบางส่วนอยู่นอกเขตภูเขา มีความลาดชันเฉลี่ยไม่เกิน 35% ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานที่ดินออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 น.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงเป็นการออกในพื้นที่ที่ต้องห้ามมิให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2497) ในเมื่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 1863 แล้ว เทศบาลตำบาลกะรนมีหน้าที่ต้องระงับการก่อสร้างอาคารหรือชะลอการต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในที่ดินแปลงดังกล่าวไว้ก่อน แต่เทศบาลตำบลกะรนไม่ระงับการก่อสร้าง รวมถึงพิจารณาต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร โดยวางหลักประกันจำนวน 3 ล้านบาท กรณีดังกล่าวกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารไม่ได้บัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการได้

อย่างไรก็ตาม ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรน มีคำสั่งต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นส่งให้ คณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการเอาผิดกับข้าราชการทุจริตกลุ่มดังกล่าว ทางคณะกรรมาธิการฯ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งขอให้ผู้ที่ได้จองห้องชุดในโครงการฯดังกล่าว แจ้งข้อมูลได้ที่คณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทา หากได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวต่อไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ