สุราษฎรธานี-ผบ.ทัพเรือภาค2 ลั่นไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แจ้งความกล่าวโทษรุกอ่าวบ้านดอนแล้ว 92 คดี รื้อขนำ 26 หลัง

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอนในวัดชลธาร ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.)ไปติดตามความคืบหน้าการดำเนินการรื้อขนำเฝ้าคอกหอยบริเวณอ่าวบ้านดอน สำรวจและการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำผิดในพื้นที่ พร้อมตรวจการสับเปลี่ยนกำลังพลให้โอวาทและมอบกระเช้าเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมปฎิบัติหน้าที่พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของ ศรชล. ในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในอ่าวบ้านดอน

พล.ร.ท.สำเริง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ศรชล.ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจคอกหอยในอ่าวบ้านดอน และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว 92 คดี ส่วนที่มีประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้มีการรื้อถอนขนำภายใน 60 วัน ขณะนี้ได้รื้อถอนไปแล้ว 26 หลังซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนอุปสรรคในการดำเนินการมีไม่มากสามารถแก้ไขได้ เช่น ยังขาดเรือที่จะเข้าไปในพื้นที่กรณีน้ำลง และการรื้อขนำที่ผู้ประกอบการรื้อถอนเป็นการรื้อถอนที่ค่อนข้างรื้อยาก รวมถึงช่างที่มารื้อต้องมีทักษะเพื่อให้รื้อถอนได้อย่างปลอดภัย

"กรณีที่ผู้ประกอบการยื่นอุทธรณ์กับทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่ ศรชล.จะปฎิตามแนวทางที่ปฎิบัติมา ซึ่งจะต้องมีการรื้อขนำในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอนโดยเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนที่เกี่ยวข้อง และทุกขั้นตอนจะดำเนินการภายใต้กฎหมาย จะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายอย่างแน่นอน เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาอ่าวบ้านดอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ " พล.ร.ท.สำเริง กล่าว