ราชบุรี-โจรเมืองโอ่งไม่ยอมพักผ่อนบุกจี้ร้านทองกลางเมืองราชบุรี ทำทีไปเลือกสร้อยทีละเส้นสบโอกาสคว้าปืนมาขู่ชิงทองหนีไปลอยนวล ตร.เร่งตามล่าตัวมาลงโทษ
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. พ.ต.ท.เรวัตร ไชยสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทองร้านทองจิราวรรณ(เยาวราช) ตั้งอยู่เลขที่ 48/9 ถนนเพชรเกษมสายเก่า สี่แยกต้นสำโรง ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จึงรายงานให้พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองได้รับทราบก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุพบน.ส.อาภรณ์ มีบุญมา 40 ปี เป็นพนักงานหน้าร้านและเป็นผู้ที่ประสบเหตุได้เล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังด้วยอาการหวาดกลัวว่า ปกติร้านทองจะปิดวันอาทิตย์แต่ในช่วงนี้ทางเจ้าของร้านเห็นว่า บรรยากาศเงียบเหงาก็เลยให้เปิดร้าน ก่อนเกิดเหตุได้มีชายรูปร่างผอม เดินเข้ามาในร้านโดยสวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกแก๊ป ใส่แมสสีดำ ขณะนั้นตนอยู่หน้าร้านสองคนกับเพื่อน คนร้ายได้สอบถามราคาทองก่อน จากนั้นก็ขอดูสร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาทจึงหยิบมาให้ลูกค้าเลือกทั้งถาด คนร้ายก็เลือกลายของทองอยู่และบอกว่าไม่ชอบลายในถาดนี้ ก่อนจะขอดูอีกเส้นที่อยู่ในตู้โชว์ จึงไปหยิบมาให้ดู แต่ก็คนร้ายก็ยังบอกว่าไม่ชอบ
จากนั้นก็ชักอาวุธปืนขึ้นมาแล้วพูดอะไรฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมีแมสปิดปากอยู่ ก่อนคนร้ายจะคว้าสร้อยคอทองคำน้ำหนักจำนวน 9 เส้นๆละ 1 บาท วิ่งออกจากร้านไป เมื่อตนเห็นคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาก็รีบหลบลงใต้ตู้โชว์ทองด้วยความหวาดกลัว พอลุกขึ้นมาได้คนร้ายก็ออกไปแล้ว โดยมีคนที่อยู่คลินิกทำฟันข้างๆ บอกว่าคนร้ายวิ่งออกไปขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อที่จอดเลยหน้าร้านออกไปด้วยความเร็ว
จากการตรวจสอบโดยละเอียด เบื้องต้นทราบมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท หายไป 11 เส้น มูลค่าเกือบสามแสนบาท และคนร้ายยังทำทองตกที่พื้นจำนวน 2 เส้น ในเรื่องนี้ตำรวจแจ้งเป็นความประมาทของทางร้านทองที่เปิดในช่วงวันหยุด ทั้งที่สมาคมผู้ค้าทองได้ขอให้ทุกร้านได้หยุดขายในวันอาทิตย์ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุได้ ขณะเดียวกันทางร้านไม่ได้ทำมาตราการของตำรวจที่ขอให้ทางร้านทองนำทองมาให้ลูกค้าดูทีละเส้น แต่ทางร้านยกมาให้ลูกดูทั้งถาด ในถาดมีทองมากกว่า 20 เส้นจึงอาจจะเป็นสิ่งยั่วใจให้ก่อเหตุ และทางร้านยังปล่อยให้ลูกค้าที่สวมหมวก สวมเสื้อคลุมเข้ามาในร้านโดยไม่ได้มีความระมัดระวัง ทั้งที่มีข้อห้ามของทุกร้านทองที่ห้ามบุคคลที่สวมใส่ลักษณะแบบนี้เข้ามาในร้าน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของร้านซึ่งมีทั้งหมด 8 ตัว รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป