แม่ทัพภาค4 พบปะกำลังพล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าย้ำยึดมั่นยุทธศาสตร์คนดี ย้ำยังคงเดินหน้าตามนโยบายเร่งด่วนทั้งการดูแลพื้นที่การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ย้ำหนักแน่นกำลังพลต้องไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่สนามฟุตซอลนาควานิช กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พบปะมอบนโยบายแก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลสวัสดิการและสิทธิของกำลังพลเป็นอย่างดี เพื่อขวัญและกำลังใจที่ดีของกำลังพลแม้ยามวิกฤตหรือสถานการณ์ปกติ พร้อมนำกำลังพลตรวจสารเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่เน้นย้ำป้องกันให้หน่วยงานทหารปลอดจากยาเสพติดตามยุทธศาสตร์คนดีอีกด้วย
พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณกำลังพลกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา กำลังพลทุกส่วนได้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีด้วยความตั้งใจและเสียสละ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลทุกนาย
ทั้งนี้ ช่วงของการผ่อนปรนเคอร์ฟิวในระยะที่ 2 กำลังพลต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางในช่วงเคอร์ฟิว ต้องปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัดเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ทุกคนมีสติ และไม่ประมาท คือสิ่งสำคัญที่ควรยึดถือเป็นแนวทางการทำหน้าที่ให้คำนึงเสมอว่าสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ยังคงต้องเฝ้าระวัง และยืนยันว่า ยังคงมีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อย่างเด็ดขาดเช่นเดิม
แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่า การทำงานในพื้นที่ต้องยึดถือ "ยุทธศาสตร์การเป็นคนดี" ยึดมั่นทำงานด้วยความจริงใจ และความตั้งใจที่เข้มแข็ง กำลังพลทุกนายต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีเรื่องร้องเรียนการกระทำผิด สามารถโทรหาแม่ทัพภาคที่ 4 ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19 กองทัพได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดรถครัวสนาม Army Delivery และตู้ปันสุข เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมาถือว่ากำลังพลทุกนายต่างทำงานด้วยใจ สำหรับการดูแลกำลังพลและครอบครัวก็มิได้ทอดทิ้ง ได้สั่งการให้ดูแลคุณภาพชีวิตของกำลังพล และครอบครัวมาโดยตลอด การทำงาน ในช่วง 6 เดือนหลัง ยังคงเดินหน้าดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนทั้งการดูแลพื้นที่ การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ตลอดจนแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีสภาสันติสุขตำบลของแต่ละพื้นที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่สำคัญ