รวบแล้ว “ไอ้พงษ์” หนุ่มหื่นเพิ่งพ้นโทษฝ่าเคอร์ฟิวบุกขืนใจเพื่อนบ้านวัย 52 ขณะนอนหลับในบ้าน ก่อนเดินเท้าหนีข้ามไปโคราชกว่า 100 กม.ยอมรับเมาแค่ลวนลามยังไม่ได้ข่มขืน ตร.แจ้ง 4 ข้อหาพร้อมค้านประกันตัว
จากกรณีที่ นายพงษ์เทพ หมั่นนึก อายุ 33 ปี พึ่งพ้นโทษมาไม่นานก่อเหตุบุกงัดหน้าต่างเข้าไปใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนนางเหลือ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้กันใน ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ขณะนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เนื่องจากสามีไปทำงานต่างประเทศ และลูกชาย 2 คนไปทำงานต่างจังหวัด เหตุเกิดเมื่อเที่ยงคืนกว่าของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เหยื่อฮึดสู้จึงข่มขืนไม่สำเร็จ แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายทั้งตบ ต่อย กระชากผม บีบคอจนร่างกายเขียวช้ำ ทั้งยังข่มขู่จะฆ่ายกครัว หากนำเรื่องไปแจ้งความจนเหยื่อไม่กล้านอนบ้านเพราะกลัวคนร้ายจะหวนกลับมาทำร้ายหรือก่อเหตุซ้ำอีก
ล่าสุด พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.ชำนิ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายพงษ์เทพผู้ต้องหาด้วยตัวเอง หลังสืบทราบว่านายพงษ์เทพหนีไปหลบทำงานกับอดีตนายจ้างที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ก่อนจะนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.ชำนิ
พ.ต.อ.สมชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุได้เข้าไปในบ้านของนางเหลือผู้เสียหายจริง โดยงัดหน้าต่างปีนเข้าไป เนื่องจากมึนเมาแต่ปฏิเสธว่ายังไม่ได้ข่มขืนแค่ลวนลามด้วยการกอดจูบเท่านั้น ทั้งบอกว่าได้หลบหนีด้วยการเดินเท้าจากบ้านที่ อ.ชำนิ ไปที่ อ.ครบุรีไกลกว่า 100 กิโลเมตร โดยเดินลัดเลาะตามทุ่งนาไปเรื่อย และนอนตามกระท่อม กินน้ำตามบ่อ และมาม่าที่ติดตัวไปด้วยกว่า 30 ซองประทังความหิว ก่อนจะไปขอทำงานกับอดีตนายจ้างได้เพียงวันเดียว กระทั่งตำรวจตามจับกุม
ขณะที่ นางเติม อายุ 60 ปี แม่ผู้ต้องหา กล่าวทั้งน้ำตาว่า หัวอกแม่ก็เสียใจและไม่มีใครอยากให้ลูกเป็นคนไม่ดี แต่ถ้าทำผิดจริงก็ให้ยอมรับว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย สอบถามลูกก็บอกว่าเข้าไปบ้านเขาจริงเพราะเมาไม่รู้ตัวแต่ยังไม่ได้ก่อเหตุข่มขืน
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา "บุกรุกเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน,ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ,ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น.และได้คัดค้านการประกันตัว ขณะที่ผู้ต้องหาใช้สิทธิ์ไม่ขอไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากกลัวจะถูกรุมประชาทัณฑ์