อุดรธานี-ผู้ว่าฯส่งรถบัส 2 ชั้นไปรับลูกหลานชาวอุดรฯจากภูเก็ตที่ติดค้างจากผลกระทบโควิด-19 กลับบ้านเกิดอีก 69 ราย พร้อมส่งกักตัวใน
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ศูนย์กักกันตัวกลุ่มเสี่ยง “ค่ายฮีโร่” หอพักสตรี มรภ.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล นายกสมาคมฮากกาอุดรธานี นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ รับการเดินทางมาของชาวอุดรธานี ที่เดินทางกลับจาก จ.ภูเก็ตพร้อมเข้ารับการกักตัว 14 วัน
สำหรับ การเดินทางมาครั้งนี้เป็นชุดที่ 2 หลังจากครั้งแรกเดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศ 2 คัน รวม 45 คน ครั้งนี้เดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศ 3 คัน รวม 69 คน เมื่อมาถึงทุกคนเข้ารับการคัดกรอง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ,ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อกระเป๋าเดินทาง ,ตรวจวัดอุณหภูมิ, บันทึกประวัติเบื้องต้น พร้อมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสอบประวัติเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยทั้งหมดได้เข้าพักกักกันตัวที่อาคารหอพัก 5 ชั้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่เดินทางมาครั้งนี้อายุสูงสุดเป็นคุณยายวัย 79 ปี มาเยี่ยมลูกเมื่อ 2 เดือนก่อน แล้วเดินทางกลับไม่ได้ เมื่อรู้ว่าจะมีรถพากลับบ้านก็ดีใจมาก , สามีภรรยาและลูก ชาว อ.สร้างคอม ไปทำงานนวดไทยที่ป่าตอง 3 ปีเศษ ส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 4-5 พันบาท ไม่ได้ทำงานตั้งแต่ 18 มี.ค.ต้องเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน 8 คน เงินหมดโชคดีมีรถกลับบ้าน และ ผู้ชายจบปวส.ไปทำงานกับญาติ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำเพียงเดือนเดียวก็เกิดโรคโควิด-19
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี กล่าวกับชาวอุดรฯที่เดินทางกลับว่า ยินดีต้อนรับทุกคนกลับบ้าน แต่ต้องกักตัว 14 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น พร้อมหยอกล้อว่า “ถ้าใครอยู่ไม่ครบจะเก็บค่ารถ ค่าอาหารวันละ 3 มื้อ” ทั้งนี้ขอขอบคุณชาวภูเก็ตที่ดูแลลูกหลานชาวอุดรฯตั้งแต่ปิดเมืองจนกระทั่งส่งกลับบ้าน และขอคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยให้พี่น้องเราได้กลับจ.อุดรฯในครั้งนี้
นายนิรัตน์ เปิดเผยว่า ค่ายฮีโร่อุดรธานีรับลูกหลานเพิ่มอีก 69 คน รวมเป็นฮีโร่ทั้งหมด 395 คน ยังสามารถรับเข้ามากักตัวได้อีก แต่ช่วงนี้ที่จ.ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม การทำงานของเจ้าหน้าที่ยังหนัก การประสานงานคัดกรองน่าจะไม่สะดวก จึงชะลอการเดินทางกลับก่อน รอดูท่าทีแล้วจะประกาศเดินทางอีกครั้ง ขอให้ผู้ที่ยังตกค้าง เตรียมตัวให้พร้อม