กาญจนบุรี-ชาวสังขละบุรีเริ่มวิตกกังวล หลังผู้ว่าฯประกาศปลดล็อกให้ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท เปิดบริการได้ตามปกติ เหตุพบนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย วอนจังหวัดทบทวนคำสั่งก่อนโควิด-19 กลับมาระบาดซ้ำ

จากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทำให้หลายจังหวัด รวมถึงจังหวัดกาญจนบุรี ต้องทำการปิดบริการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร คาเฟ่ ชั่วคราวยาวนานนับเดือน จนถึงขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้มีประกาศให้ผ่อนปรนเปิดกิจการได้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.63 เป็นต้นไป แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี อย่างเคร่งครัดหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พบว่า เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและถ่ายรูปบนสะพานฯกันบ้างแล้ว จากการสังเกตพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อน โดยเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนบ้านวังกะ ชุมชนที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม การที่จะเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองของชุมชน คอยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หากใครไม่สวมก็จะไม่อนุญาตให้เข้าหมู่บ้าน

ทั้งนี้ จากภาพที่ปรากฏบนสะพานทำให้เกิดคำถามว่า นักท่องเที่ยวเหล่านี้ผ่านด่านตรวจมาได้อย่างไร แล้วเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ที่คนในชุมชนขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย แต่ทำไมนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ไม่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม ขณะที่ชาวบ้านที่นี่ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ถ้าเป็นเช่นนี้การป้องกันโควิด-19 ที่หน่วยงานราชการ และชุมชน พยายามป้องกันการระบาด มานานกว่า 1 เดือน จนทำให้สังขละบุรี เป็นพื้นที่ปลอดโควิด-19 กำลังจะเสียเวลาเปล่าหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกิดคำถามตามมาอีกว่า ถ้าเปิดให้คนต่างจังหวัดมาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีได้ แต่หน่วยงานรัฐยังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมาย หรือยังไม่สามารถควบคุมดูแลได้ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังไม่ยอมให้ความร่วมมือด้านสุขอนามัยในเรื่องการล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หรือหลักการของ Social Distancing อย่างเคร่งครัด ก็ขอให้มีการทบทวนการประกาศเปิดบริการที่พักโรงแรม ไปก่อนจนพ้นเดือน พ.ค.ดีหรือไหม ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป แล้วเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อีกรอบ ความรุนแรงน่าจะควบคุมได้ยาก การท่องเที่ยวซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของจ.กาญจนบุรี จะเสียหายมากกว่านี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าว