นครศรีธรรมราช-พบซากโลมาหลังโหนกตายยังไม่ทราบสาเหตุลอยอยู่กลางทะเลหน้าอ่าวหัวไทร ชาวบ้านเชื่อก้อนน้ำมันในทะเลอาจเป็นสาเหตุทำให้สัตว์ทะเลตายจำนวนมากในช่วง 6 เดือน

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.นายพิธานี ยอดสุรางค์ เครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากนครศรีธรรมราช ได้แจ้งไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางว่า พบซากโลมาไม่ทราบชนิดมีขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2.5 เมตร น้ำหนักมากกว่า 150 กก.ตายซากลอยอยู่กลางทะเลหน้าอ่าวหัวไทร แนวบ้านเกาะเพชร ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กม. โดยพบว่าซากโลมาตัวดังกล่าวอยู่ในสภาพตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ ซากเริ่มเน่าเปื่อย โดยชาวประมงซึ่งกำลังออกทำการประมงหลังคลื่นลมสงบยังไม่สามารถลากกลับเข้าฝั่งได้

สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอน กลางว่า สภาพซากโลมาที่พบน่าจะเป็นโลมาหลังโหนกเพศเมียโตเต็มวัย ส่วนสาเหตุการตายนั้นไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องทำการชันสูตรอย่างละเอียด ในกรณีนี้ต้องรอให้ซากเข้าฝั่งแล้วจึงมารับไปทำการชันสูตรอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีโลมาและเต่าทะเลตายจำนวนมากตลอดแนวชายฝั่งนครศรีธรรมราช โดยการชันสูตรของเจ้าหน้าที่พบว่า ส่วนใหญ่จะมีเศษวัสดุพลาสติกที่ใช้ในการทำประมงติดตกค้างอยู่ในทางเดินอาหาร รวมทั้งมีบาดแผลจากการบาดของเครื่องมือประมง ขณะเดียวกันบริเวณชายฝั่งอำเภอหัวไทรและใกล้เคียงพบก้อนน้ำมันถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจำนวนมาก อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลตายเป็นจำนวนมากก็ได้ โดยไม่มีหน่วยงานใดกล้าระบุว่าเป็นก้อนน้ำมันจากแหล่งใด มีที่มาอย่างไร