นราธิวาส-แรงงานไทยในมาเลเซียหนีกลับเข้าประเทศต่อเนื่อง ใช้ช่องทางธรรมชาติแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล่าสุดจับได้อีก 25 ราย เผยลำบากมากแต่ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ผบ.ฉก.48) ร่วมกับ พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รอง ผบ.ชค.ปชด. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุดปฏิบัติการเดินลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณชุมชนบือเร็ง ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร หลังทราบเบาะแสมีแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก เดินทางข้ามจากช่องทางข้ามธรรมชาติเพื่อเข้ามายังฝั่งประเทศไทย หลังมาเลเซียขยายเวลาล็อกดาว
ทั้งนี้ ขณะลาดตะเวนพบคนไทยพยายามเดินข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อข้ามมายังประเทศไทยจับกุมแรงงานทั้งหมดได้ 25 คน พร้อมนำไปเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับตัวที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัดจะทำการกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามศูนย์ Local Quarantine รองรับผู้ที่ต้องกักตัวเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาดต่อไป และทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมือง
นาย ซูกิปลี มะศารี แรงงานไทยที่ไปทำงานที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า เพิ่งจะมีโอกาสได้กินข้าวมือแรกหิวมาก เพราะออกมาจากกัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่กลางคืนของเมื่อวานนี้ 25 เม.ย.ไม่มีเงินติดตัวเลย ดีใจที่ได้กลับมาบ้าน ดีใจมากๆๆๆ
ด้าน นายซุลกิปลี มะดารี แรงงานไทย กล่าวว่า ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารในประเทศมาเลเซียกว่า 10 ปี หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจกลับมายังประเทศไทยโดยเลือกช่องทางธรรมชาติข้ามมาด่านชายแดน รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่อยากกลับบ้านมาก และตรงกับช่วงเดือนรอมฎอนอีกด้วย จึงตัดสินใจมา แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากพอสมควร การเดินทางมาในครั้งนี้ค่อนข้างยากลำบาก หลายขั้นตอน แต่พอได้เดินทางกลับมาเจอเจ้าหน้าที่จากทางประเทศไทย ทั้งทหาร ตำรวจ ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ที่มาคอยแล