สมุทรปราการ-เปลวไฟปริศนาลุกโชนจากใต้ดินยิ่งฉีดน้ำไฟยิ่งลุกไหม้ คาดเกิดจากสารเคมีถูกฝังกลบใต้ดินพอถูกความร้อนเกิดลุกไหม้ อบต.บางเสาธงเร่งหาตัวผู้ลักลอบนำมาฝัง
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากใต้ดินหลายจุดบริเวณลานดินวางเปล่า ใกล้ชุมชนด้านหลังสถานที่ก่อสร้างอาคารโกดัง ภายในซอย 3 ไทยประกัน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลใกล้เคียง
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุได้พบเปลวเพลิงที่พวยพุงออกมาจากใต้พื้นดิน เปลวไฟคล้ายไฟเตาหลอมโลหะเป็นสีส้ม จำนวนหลายจุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้น้ำฉีดเข้าไปที่เปลวเพลิงกลับพบว่ายิ่งฉีดน้ำเปลวไฟกลับลุกโหมขึ้นมาอย่างรุนแรง และลูกไฟวิ่งตามสายน้ำย้อนขึ้นไปหาคนฉีด และมีการระเบิดจากใต้ดินดังขึ้นเป็นช่วง ๆ บางจังหวะพบว่าเกิดการระเบิดจนมีเพลิงวิ่งทวนตามสายน้ำเข้าใส่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอย่างรุนแรง จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอย และหยุดการใช้น้ำ พร้อมเปลี่ยนมาใช้น้ำยาเคมีโฟมแทน แต่ก็ไม่เป็นผลแต่ยิ่งทำให้เกิดกลุ่มควันพิษสีขาวจำนวนมากที่ฟุ้งกระจายปกคลุมพื้นที่สิ่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่า ใต้ดินอาจจะมีสารเคมีบางชนิดถูกฝังกลบอยู่ และทำปฏิกิริยากับความร้อนของอากาศภายนอก จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ เมื่อเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเข้าไปยิ่งให้เปลวไฟลุกโหมไปอีก เจ้าหน้าที่จึงหยุดการฉีดน้ำ และนำเอารถแบคโฮ มาตักหน้าดินออก แต่ยิ่งทำให้เปลวไฟปะทุหนักขึ้นและกระจายตัว เวลาผ่านไปกว่า 5 ช่วงโมงเปลวไฟยังลุกพวยพุ่งออกมาจากใต้ดินตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงใช้รถแบกโฮตักดินและทรายจากที่อื่นมาโปรยปิดหน้าดินเอาไว้เพื่อให้ความร้อนคลายตัว และให้รถดับเพลิงจอดแสตนบายอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังการลุกลาม
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เปิดเผยว่า การดับไฟในครั้งนี้ เจออุปสรรคค่อนข้างมากเนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำหรือน้ำยาโฟมฉีดสกัดได้ คาดใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ขณะเดียวกันได้อพยพคนงานและประชาชนใกล้เคียง ออกห่างจากที่เกิดเหตุและให้ออกไปอยู่เหนือลม เนื่องจากพบว่ากลุ่มควันสีขาวที่พวยพุงออกมาน่าจะเป็นควันพิษอาจเป็นอันตรายได้ ส่วนสาเหตุที่ทำเกิดไฟไหม้ในคาดว่า น่าจะมีการลักลอบนำเอาสารเคมีบางชนิดมาฝังกลบโดยไม่ถูกวิธีจนทำให้เกิดความร้อนสะสมผนวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมา
นาย สมบูณร์ กกรัมย์ คนงานก่อสร้าง กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้ได้มีการนำสารเคมีประเภทผงอลูมิเนียมเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน น้ำหนักถุงละประมาณ 15 กิโลกรัม มาฝังกลบไว้ประมาณ 10 ถุง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่า คาดมีสารเคมีชนิดอื่นด้วยที่มีอันตรายสูงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนจะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบ หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายกับชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม
ด้านนายก อบต.บางเสาธง หลังทราบเรื่องได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณะสุขลงพื้นที่เร่งตรวจสอบ หาต้นตอของผู้มักง่ายที่ลอบเอาสารเคมีมาฝังกลบบริเวณนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย