THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

06 เมษายน 2563 : 15:51 น.

อุดรธานี-ผู้ว่าฯเผยยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการปิดเมือง ไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม ขณะที่ได้รับการรักษาหายตรวจไม่พบเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงศ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี โดยมีนายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผวจ.อุดรธานี นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จ.อุดรธานียังไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม ยังคงมียอดสะสมรวม 8 ราย มีผู้ป่วยได้รับการรักษาหาย ตรวจไม่พบเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย คือ รายแรกที่ติดเชื้อจากสถานบันเทิงจังหวัดข้างเคียง , รายที่ 2 ชาวต่างประเทศกลับจากไปทำธุรกิจหลายประเทศ ส่วนรายที่ 3 เป็นหญิงไทยเดินทางกลับจากไปทำงานประเทศอังกฤษ ทั้ง 3 ยังต้องไปกักตัวที่บ้านอีก 14 วัน ทำให้มีผู้รักษาหายแล้ว 5 ราย ยังเหลืออีก 3 ราย

ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับการกักตัวที่บ้าน 16,332 ราย ผ่านการกักตัวไม่พบเชื้อ 6,492 ราย ยังคงต้องกักตัวต่อ 9,860 ราย ในจำนวนนี้ 5,484 ราย เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอต่อการยังชีพ สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดอุดรธานี จะได้ส่งมอบถุงยังชีพไปช่วย

สำหรับ รพ.สนาม โรมแรมวีธรา บูธีคโฮเต็ล รวม 60 ห้อง พร้อมที่จะรับคณะแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ จากต่างอำเภอมาปฏิบัติหน้าที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เข้าพักหากสถานการณ์มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก และมีโรงแรมอีก 1 แห่ง ได้เสนอตัวเข้ามาเพิ่มเติม ขณะ รพ.สนาม มรภ.อุดรธานี ได้รับกักตัวชาวต่างประเทศ สปป.ลาว (ปิดด่านกลับไม่ได้) , กัมพูชาและมาเลเซีย รวม 22 คน

นายนิรัตน์ กล่าวว่า จ.อุดรธานีมีเป้าหมายไม่มีการติดเชื้อในพื้นที่ ด้วยการตั้งด่านคัดกรอง ผู้เดินทางเข้าในพื้นที่ เพื่อรับการกักตัว 14 วัน ตลอดจนมาตรการอยู่ที่บ้านไม่ไปไหน และยังไม่มีการติดเชื้อในพื้นที่ ยังคงยืนยันใช้มาตรการเดิม ยังไม่ถึงขึ้นต้อง “ปิดเมือง” เหมือนหลายพื้นที่แต่ก็พร้อมดำเนินการหากจำเป็น

ด้าน พล ต.ต.พิษณุ อุณพเสรี ผบก. ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ตั้งแต่ประการเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 22.00-04.00 น. ในช่วงแรกได้เน้นว่ากล่าวตักเตือน ให้ปฏิบัติตามประกาศ ด้วยต้องการให้อยู่บ้านไม่มีเจตนากวาดจับดำเนินคดี ที่มีการจับกุมเพราะเจตนาผ่าฝืนจัดเจน ในวันที่ 4 เม.ย.จับ 2 รายๆ แรกศาลสั่งปรับ 1 พัน จำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี รายที่ 2 จำคุก 1 ปี รอลงอาญา 1 ปี ส่วนในวันที่ 5 เม.ย.จับกุม 37 ราย กระจายอยู่ทุกสถานี

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ