THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

06 เมษายน 2563 : 13:34 น.

นครพนม-ผู้ว่าฯงัดกฎเหล็กสั่งปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 งดเดินทางเข้าออกรวมถึงห้ามต่างด้าวเข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมจับจริงดำเนินคดีแล้วเคสแรกชาวลาวฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวศาลสั่งกักขัง 15 วันไม่รอลงอาญา

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นคพรนม ยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 หลังก่อนนี้มีคำสั่งให้มีการปิดธุรกิจกลุ่มเสี่ยงทุกประเภท รวมถึงการปิดด่านจุดผ่อนปรนตามอำเภอชายแดนรวม 4 อำเภอ เหลือเพียงด่านถาวรคือ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่ง ที่ 3 นครพนม – คำม่วน ที่ยังอนุโลมให้แรงงานต่างด้าวชาวลาว เดินทางกลับประเทศ รวมถึง เปิดให้รถบรรทุกขนส่งสินค้าข้าม แต่ห้ามประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าออก เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีการตรวจคัดกรอง ทุกรายที่มีการอนุโลมให้ข้ามเข้าออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ล่าสุดทางจ.นครพนม โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีประกาศคำสั่งห้ามบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงงดการอนุโลมการเดินทางเข้าออก บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่ง ที่ 3 นครพนม – คำม่วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ส่วนรถบรรทุกสินค้า ยังสามารถเดินทางขนส่งระหว่างประเทศได้ แต่บุคคลที่ประจำรถ คนขับ พนักงานรถ หากมีการออกนอกประเทศเกิน 5 ชั่วโมง หากเข้ามาจะต้องถูกเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อควบคุมโรค พร้อมมีคำสั่งเด็ดขาด หากพบบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที

นอกจากนี้ ในช่วงคำสั่งเคอร์ฟิว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทั้ง 12 อำเภอ ตั้งจุดตรวจสกัด คัดกรอง หากพบผู้ฝ่าฝืน จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มียกเว้น

ด้าน พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยถึงผลการดำเนินการทางคดีหลังมีการเพิ่มมาตรการเข้มว่า ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ได้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนท้องถิ่น แต่ก็ยังพบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดตั้งแต่วันแรก ได้มีการจับกุมคนไทย 1 ราย พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวสปป.ลาว 5 ราย ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เพื่อเข้ามาในพื้นที่หาทางข้ามไปยัง สปป.ลาว ตรวจสอบมีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในข้อหาออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00 น. – 04.00 น.โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวดำเนินคดี ส่งฟ้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ทางศาลจังหวัดนครพนมได้พิจารณาตัดสินเป็นเคสแรกหลังคำสั่ง โดยศาลตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 15 วัน อีกทั้งผู้ต้องหาไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน เปลี่ยนโทษจากจำคุก 15 วัน เป็นกักขัง 15 วัน ก่อนควบคุมตัวนำส่งไปกักขัง ที่เรือนจำกลางนครพนม หลังพ้นโทษ จะได้มีการผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ