THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

03 กุมภาพันธ์ 2563 : 15:34 น.

กาญจนบุรี - ศาลเลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง คดีดังหวย 30 ล้านอลเวง หลังหมวดจรูญยื่นฟ้องทั้งครูปรีชาและทนายคู่ใจ ข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ ส่วนคดีหลักศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดไกล่เกลี่ย 20 มี.ค.นี้

ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ตัดสินยกฟ้องคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร กรณีทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 เลข 533726 ชเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท หลังจากศาลยกฟ้องคดีดังกล่าว ครูปรีชา ได้มอบหมายให้ นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว ยื่นอุทธรณ์คดีไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 และ นอกจากคดีหลักดังกล่าวแล้ว ทีม ครูปรีชา ยังฟ้องทีม หมวดจรูญ อีก 9 คดี ซึ่งศาลได้ยกฟ้อง ถอนฟ้อง จำหน่ายคดี และรอฟังคำพิพากษาหรือคำสั่ง

ขณะที่ฝ่าย หมวดจรูญ ได้ยื่นฟ้อง ครูปรีชา และทนายวรยุทธ ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหาหรือฐานความผิด "ร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา" ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 3 ก.พ.63 นั้น

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ (โจทก์) พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวได้เดินทางมาถึงศาล มีนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาหมวดจรูญ และนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจ ส่วนฝ่ายจำเลยคือ นายปรีชา หรือครูปรีชา จำเลยที่ 1 และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา จำเลยที่ 2 ไม่ได้เดินทางมาไต่สวนมูลฟ้องตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ แต่ได้มอบหมายให้เสมียนทนาย และผู้รับมอบอำนาจ มาขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องในคดีดังกล่าวออกไป

ทั้งนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ให้สัมถาษณ์ก่อนเข้าไปภายในศาลว่า เรามานัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่หมวดจรูญฟ้องครูปรีชาและทนายวรยุทธในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จในคดีที่ชนะคดีไปแล้ว ที่ยกฟ้องไป ส่วนกรณีที่ฝ่ายจำเลยไม่ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ได้มอบหมายให้เสมียนทนายความมาขอเลื่อนออกไป หากมีเหตุที่จะต้องเลื่อน ศาลก็คงจะอนุญาตให้เลื่อนไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคิดไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะขอเลื่อนออกไปก่อน แต่จะสามารถเลื่อนได้เพียงครั้งเดียว และคราวหน้าก็ต้องแต่งตั้งทนายมาเพื่อซักค้าน แต่หากไม่แต่งตั้งทนายมาซักค้าน เราก็สามารถสืบพยานได้เลย เพราะถือว่าไม่ติดใจ

สำหรับ คดีหลัก ศาลอุทธรณ์ภาค7 ได้นัดทั้งสองฝ่ายให้มาไกล่เกลี่ยในวันที่ 20 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนของศาลอุทธรณ์ที่จะเรียกคู่ความทั้งสองฝ่ายมาว่าสามารถจะตกลงกันได้หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับหมวดจรูญว่าจะคิดเห็นอย่างไร แต่คดีนี้เราก็ชนะคดีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม คิดว่าเป็นการไกล่เกลี่ยคดีทั้งหมดที่มีการฟ้องร้องกัน รวมถึงคดีอื่นๆ ที่จะมีการฟ้อง และที่จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวด้วย เพื่อให้คดีหมดจากในศาลไป แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความยินยอมของคู่ความทั้งสองฝ่าย หากสามารถตกลงกันได้ ก็จบได้ แต่หากหมวดจรูญไม่ยอม ก็คงจบไม่ได้

ด้าน หมวดจรูญ กล่าวว่า หากมีการไกล่เกลี่ยกันก็คงจะต้องพูดคุยกันก่อน ส่วนจะให้อภัยคู่กรณีหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบตอนนี้ ส่วนกรณีข่าวลือว่าตนขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นนั้นไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม หลังใช้เวลาภายในศาลประมาณ 45 นาที เสมียนทนายและผู้รับมอบอำนาจจากฝ่ายจำเลยคือ ครูปรีชา และทนายวรยุทธ เดินออกมาจากศาล จึงเข้าไปขอสัมภาษณ์ แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยตอบเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอให้ข่าว และบอกว่าศาลได้เลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 30 มี.ค.63

ในเวลาต่อมา ทนายษิทรา พร้อมหมวดจรูญ ได้เดินลงมาจากศาล พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ทางฝ่ายจำเลยขอเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องออกไป โดยให้เหตุผลว่าติดว่าความอยู่ที่ศาลอื่น จึงไม่สะดวกมาในวันนี้ ซึ่งศาลก็ได้อนุญาต ขณะที่เราก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าเป็นการเลื่อนครั้งแรก โดยเลื่อนไปเป็นวันที่ 30 มี.ค.63 โดยในวันนั้นคาดว่า จะไต่สวนหมวดจรูญเพียงปากเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว พร้อมยื่นเอกสาร เพราะจะเท็จหรือไม่เท็จอยู่ที่เอกสารชี้ชัดอยู่แล้วในคดีที่เราสืบไปแล้ว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ