พิษณุโลก-โผล่อีกแล้วหลอกตุ๋นเหยื่อผ่านเฟซบุ๊กชวนทำอาชีพเสริมแพ็คของส่งโรงงานรายได้งาม สุดท้ายถูกหลอกตามเคย ชาวบ้าน อ.บางระกำนับ 100 ราย รวมตัวแจ้งความเอาผิดแม่ข่าย

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.พ.ต.ท.ชูชีพ แป้นเมือง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งว่าชาวบ้านกว่า 100 ราย ในพื้นที่หลายหมู่บ้านหลายตำบลของ อ.บางระกำ อาทิ ต.บางระกำ ต.คุยม่วง ถูกกุล่มมิจฉาชีพหลอก ผ่านใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “บ้านบีบีงานเสริม” และ “ขวัญงานเสริม”

ทั้งนี้ มีการโฆษณาผ่านช่องทางเฟซบุ๊กว่าหากใครสนใจอยากมีอาชีพเสริมรายได้ดี มีงานให้เลือกทำตามใจชอบ เช่น แยกสีกระดิ่ง แยกสียางวง แยกสีลูกเต๋า แยกสีอักษร และแพ็คดอกรักส่งให้กับโรงงาน โดยจะได้ค่าจ้างรวมทั้งกำไรแตกต่างกันไป ผู้ที่สนใจจะต้องนำเงินไปซื้อของและซื้ออุปกรณ์จากตัวแทนรายหนึ่งในพื้นที่ อ.บางระกำ ในระยะแรกมีการจ่ายผลตอบแทนตรงเวลา แต่เมื่อทำไปสักระยะกลับไม่ได้ค่าจ้างรวมทั้งกำไรตามที่ตกลงกันไว้

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายบางคนมีการไปกู้ยืมเงินนอกระบบและชักชวนคนในครอบครัวมาลงทุนทำงานด้วย สุดท้ายกลับถูกหลอกไม่ได้เงินจริงตามที่โฆษณาเอาไว้ในเฟซบุ๊ก ล่าสุดพบว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อในพื้นที่ อ.บางระกำ จำนวนมาก คิดเป็นเงินรวมกันมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท มีผู้ที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อพากันเดินทางมาแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

น.ส.กฤษณา ม่วงแนม อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ต.บางระกำ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้เสียหาย และเป็นแม่ทีมหนึ่งในผู้ที่สนใจอยากทำอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จึงตัดสินใจลงทุนไปซื้ออุปกรณ์กับ น.ส.กุ้ง นามสมมุติ ซึ่งเปิดเฟซบุ๊กหาผู้ที่สนใจมาร่วมทีมคัดแยกสิ่งของขายเพื่อส่งโรงงาน อาทิ ลงทุนแยกสียางวงในราคา 500 บาท เมื่อแพ็คส่งเป็นรอบจะได้กำไร 800 บาท แต่ต้องรอเงินเป็นระยะประมาณ 20 วัน

น.ส.กฤษณา กล่าวว่า บางคนอยากได้กำไรมากก็ลงทุนนำเงินไปซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก บางรายสั่งอุปกรณ์เป็น 100-200 ชุด สุดท้ายมีชาวบ้านสนใจเห็นว่ากำไรดีจึงพากันทำกันเป็นจำนวนมาก สุดท้ายแล้วนำของไปส่งให้ น.ส.กุ้งกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เงินตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมกับแจ้งว่า กำลังติดต่อกับตัวแทนรายใหญ่คนหนึ่งที่เป็นเจ้าของตัวจริงในพื้นที่ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร

ทั้งนี้ ชาวบ้านเห็นว่าน่าจะเป็นการหลอกลวงจึงรวมตัวกันมาแจ้งความ ขณะที่ชาวบ้านบางรายถึงกับเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ นำทองไปจำนำจนหมดเนื้อหมดตัว เพราะหวังเพียงว่าเงินที่ได้มาลงทุนจะสร้างผลกำไรในอนาคตเป็นอย่างงาม แต่กลับมาถูกหลอกจากคนในพื้นที่เดียวกันเช่นนี้ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.ท.ชูชีพ แป้นเมือง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางระกำ ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านไว้แล้วทั้งหมด ทั้งหลักฐานการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของ น.ส.กุ้ง ฃแต่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังมีเอกสารไม่ครบจึงทำการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน นอกจากนี้ ผู้เสียหายทั้งหมดยังได้เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจ.พิษณุโลก เพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้หาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางระกำ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพต่อไป