กาญจนบุรี- ศาลอุทธรณ์ ภาค 7 พิพากษาเพิ่มโทษ เจ้าสัวเปรมชัย จำคุก 2 ปี 14 เดือน ในคดีล่าเสือดำ กลางป่าทุ่งใหญ่ฯ
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ความคืบหน้ากรณีที่ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.219/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.63/2562 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน (จำเลย) เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดวันที่ 4-6 ก.พ.61
การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. โดยศาลได้ใช้เวลาในการอ่านประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้พิพากษาโดยสั่งเพิ่มโทษ นายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ โดดเครือ จำคุก 2 ปี 17 เดือน นางนที เรียมแสน จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับเงิน 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วน นายธานี ทุมมาศ จำคุก 2 ปี 21 เดือน และชั้นอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นในเรื่องเงินค่าปรับจำเลยทั้ง 4 คนให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวนเงินรวม 2 ล้านบาท
ขณะที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัว นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 เพิ่มหลักทรัพย์อีกคนละ 2 แสนบาท แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิพากษาคดี ดังนี้ จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต รวมโทษจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ถูกสั่งฟ้อง 6 ข้อหา ยกฟ้อง 1 ข้อหา ดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน 2.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 3.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน 4.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน
จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ รวมโทษจำคุก 13 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 7 ข้อหา ยกฟ้อง 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน 2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน 3.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน
จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี ถูกสั่งฟ้อง 5 ข้อหา ยกฟ้อง 3 ข้อหา คือ 1.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 2.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท)
จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 8 ข้อหา โดยไม่มีข้อหาใดถูกยกฟ้อง ประกอบด้วย 1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน 2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน 3.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 4.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 1 ปี 5.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย(กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน 6.ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 4 เดือน 7.ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 1 ปี
สำหรับ ค่าเสียหายให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ.2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช