นครศรีธรรมราช-ชาวทุ่งใหญ่นับพันรวมตัวแห่โลงศพทวงคำสัญญาสร้างถนนสายทุ่งใหญ่-หลักช้าง ระยะทาง 15 กม.เพื่อขยายเป็นถนน 4 เลนลดอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ริมถนนสายทุ่งใหญ่-หลักช้าง หน้าโรงเรียนบ้านใสใหญ่ หมู่ 8 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนชาว อ.ทุ่งใหญ่ และใกล้เคียงประมาณ 1,200 คน มารวมตัวกันเพื่อทวงถามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ถึงการซ่อมแซมถนนสร้างมาตั้งแต่ปี 2518 จนถึงปัจจุบันรวมเวลากว่า 44 ปี ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทั้งสาย ระยะทาง 15 กม.และเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านไปยังจังหวัด จ.กระบี่ , พังงา , ภูเก็ต และ สุราษฏร์ธานี มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นไม่เว้นแต่ละวันมีคนบาดเจ็บล้มตายบ่อยครั้ง จนชาวบ้านเรียกถนนเส้นนี้ว่า “ถนนสายมรณะ”
ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่นัดรวมตัวกันออกมาเรียกร้องขอให้มีการขยายถนนเป็น 4 เลน โดยตัวแทนชาวบ้านได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึง 3 ฉบับเพื่อส่งให้นายกฤษณะ ณ สงขลา นายอำเภอทุ่งใหญ่ ขณะนั้นเพื่อส่งต่อไปยังผู้รับผิดชอบและส่งถึงรัฐบาล เพื่อของบประมาณมาขยายถนนให้เป็น 4 เลน ผู้เกี่ยวข้องรับทราบปัญหารับปากว่าจะจัดสรรงบประมาณมาก่อสร้างถนนให้ เวลาผ่านไปจนถึงขณะนี้ 2 ปี ถนนเส้นนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านจึงหารือนัดหมายเพื่อรวมตัวมาทวงคืนคำสัญญา
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมีการนำรถแห่ติดแผ่นป้ายเชิญชวนชาวบ้านให้มารวมตัวกันให้มากเพื่อให้ผู้มีอำนาจรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสายนี้ พร้อมนำขนมจีนมาจัดเลี้ยงพร้อมน้ำดื่มให้กับประชาชนที่มารวมตัวกันในครั้งนี้ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านขับรถยนต์มาจอดโดยบรรทุกโลงศพเปล่าใส่ท้ายรถเพื่อนำมาแสดงเป็นสัญลักษณ์ของความสูญเสีย หรือความตายที่เกิดขึ้นกับถนนสายนี้
ต่อมา นายนพดล กีรติกรพิสุทธิ์ นายอำเภอทุ่งใหญ่ พร้อมกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางมาตรวจเยี่ยมดูความเรียบร้อยในสถานที่นัดรวมตัว มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองมาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจารจร ทำให้การจารจรติดขัดเป็นช่วงๆ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี
นายอภิชาติ เพชรศรีจันทร์ ผอ.แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 2 ทุ่งสง เดินทางมารับฟังปัญหาพร้อมกับรับหนังสือจากนายนพดล กีรติกรพิสุทธิ์ นายอำเภอทุ่งใหญ่ที่ชาวบ้านได้ทำขึ้นมาเพื่อเรียกร้องขอถนน 4 เลน โดยนายอภิชาติ รับปากว่างบประมาณในปี 62 ได้ผ่านไปแล้ว จึงจะขอตั้งงบประมาณในปี 63 และจะดำเนินการก่อสร้างได้ในปลายปี 64 ระยะทาง 15 กม.อาจจะใช้งบประมาณกว่า 700 ล้านบาทระหว่างนี้แขวงทางหลวงจะปรับปรุงลาดผิวถนนให้ก่อนและจะขยายไหล่ทางให้กว้างขึ้น ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่พอใจแยกย้ายกับบ้าน