THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

05 พฤศจิกายน 2562 : 20:33 น.

ชลบุรี-ตำรวจพลิกแผ่นดินล่า 3 ผู้ต้องหาแทงตำรวจศาลหลบหนี เผยทำเป็นขบวนการวางแผนอย่างดี คาดยังกบดานในไทยรอหนีข้ามฝั่งไปเขมร พร้อมตั้งรางวัลผู้แจ้งเบาะแส 5 หมื่น

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ผช.ผบ.ตร.เดินทางมาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธร จ.ชลบุรี และชุดสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี 3 ผู้ต้องขังได้ร่วมกันใช้มีดแทงตำรวจศาลพัทยา แล้วใช้ปืนยิงเปิดทางวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หลบหนีไป โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชม.

พล.ต.ท.ศตวรรษ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า คดีนี้สำคัญมาก เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 มีคดียาเสพติดติดตัวได้ร่วมกันก่อเหตุอย่างอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญอย่างมาก ทั้งการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อเหตุในศาลจังหวัดพัทยา โดยทาง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ จากการสืบสวนจนสามารถคุมตัวผู้ที่มีส่วนรู้เห็น และให้การช่วยเหลือได้จำนวน 4-5 รายนั้น พบว่าการก่อเหตุครั้งนี้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี มีกำหนดเวลา และขั้นตอน รวมถึงการนำส่งอาวุธขณะเข้าเยี่ยมมาให้ผู้ต้องหา ก่อนนำยานหานะมารับเพื่อหลบหนีและใช้คีมที่เตรียมมาตัดโซ่ตรวนออก

จากนั้น ก็จะมีคนขับรถมิตซูบิชิ สีขาว หลังคาสีดำ ทะเบียน ขต-4390 ชลบุรี มาสับ เปลี่ยนให้ในพื้นที่ อ.ศรีราชา พร้อมคนขับอีก 2 คนพาหลบหนีไป ซึ่งปัจจุบันคาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยังคงหลบอยู่ในพื้นที่ภูธรภาค 2 และกำลังประสานพรรคพวกเพื่อหวังหลบข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ได้มีการประสานไปยัง ด่าน ตม. กำลัง ตชด. กำลังทหาร รวมทั้งตำรวจน้ำ ตำรวจภูธรภาค 1 และ 3 เพื่อตั้งด่านสกัดป้องกันการหลบหนีทั้งทางบกและทางทะเลไว้อย่างเต็มที่แล้ว

สำหรับ ผู้ร่วมให้การช่วยเหลือขณะนี้คุมตัวมาสอบปากคำ โดยให้การที่เป็นประโยชน์ในเรื่องขั้นตอนการหลบหนี ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มคนสนิทของนายหน่อย นิลเทศ อายุ 41 ปี 1 ในผู้ต้องหาที่ได้คุมตัวไว้เกือบทั้งหมดแล้ว เพียงยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา แต่ในกรณีของการนำส่งอาวุธกำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะที่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน สีบรอนด์ ทะเบียน ผค-6762 ชลบุรี ไว้ได้อีก 1 คัน ซึ่งรถเหล่านี้เป็นรถที่กลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือไปยืมเพื่อนบ้านมาก่อเหตุ

พล.ต.ท.ศตวรรษ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แยกแนวทางการปฏิบัติไว้ 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การสอบสวนกรณีเรื่องของอาวุธที่มีการนำส่งให้กับผู้ต้องหา ที่ใช้ในการก่อเหตุ และ 2.การติดตามจับกุม ซึ่งคาดว่ากรณีหลังนี้ผู้ต้องหาคงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนีให้ได้ เพราะคดีเรื่องยาเสพติดก็ถือเป็นผู้ค้ารายใหญ่ อีกทั้งยังมาก่อเหตุซ้ำซึ่งหากพบตัวเจ้าหน้าที่คงต้องใช้ความระมัดระวังสูง แต่ก็จะพยายามจับกุมโดยละมุนละม่อมแต่ หากต่อสู้ขัดขืนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแสในการติด ตามจับกุมไว้แล้วจำนวน 50,000 บาท

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ