เพชรบูรณ์-ทหารตำรวจป่าไม้สนธิกำลังบุกยึดเดอะคิงคองเขาค้อสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังพบบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ประกอบด้วยชุดพยัคฆ์ไพร ศปก.4 กม.รมน, สำนักบริหารจัดการทรัพยาป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก, ป่าไม้ฯเพชรบูรณ์, ทหาร,ตำรวจ สภ.เขาค้อ, ตชด.,บก.ปทส, ตม.เพชรบูรณ์และฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เดอะคิงคอง หมู่ที่ 4 บ้านเพชรดำ ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ แลนด์มาร์กให้บริการนักท่องเที่ยวชื่อดังและยังให้บริการเต้นที่พัก หลังเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องเรียนว่า สิ่งก่อสร้างปลูกในเขตพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบนางวารุณี สินยี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 10 ต.เขาค้อ นางสุรีรัตน์ สินเช้า อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่ 10 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ และนายอัมรินทร์ ชูเพชร "สจ.อ่ำ" อายุ 42 ปี โดยสองรายแรกรับว่าเป็นเจ้าของและผู้ดูแล ส่วนในนายอัมรินทร์บ่ายเบี่ยงอ้างไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่หลังจาก พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.จี้ถามจึงรับว่า เป็นเจ้าของเดอะคิงคอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิพบว่า เดอะคิงคองครอบครองที่ดินคล่อมแปลงที่ดินคนอื่น ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกการตรวจยึดพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ส่วนแปลงที่ดินที่ตรวจยึดมีเนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 36 ตารางวา คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 2,188,500 บาท

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ โดยกล่าวหานางวารุณีและนายอัมรินทร์ ร่วมกันทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานร่วมกันก่อสร้างแผ้วถางหรือกระทำการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตและตามมาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง โดยฝ่าฝืนบทบัญญัญติตามมาตรา 54 ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้แผ้วถางป่า

นอกจากนี้ ยังขยายการตรวจสอบรถรางโดยพบว่า มีการนำรถรางจำนวน 2 คัน ถูกนำไปแอบซุกซ่อนอยู่ภายในทุ่งกันลม เป็นรถไม่สามารถจดทะเบียนได้ จึงได้ทำบันทึกตรวยยึดเพิ่มเติม และยังเดินทางเข้าไปตรวจสอบรีสอร์ทติดกังหันลมด้านหลังมีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นเจ้าของ กำลังก่อสร้างอาคารที่พัก โดยเจ้าของแจ้งว่าอยู่ระหว่างทำเรื่องอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ระงับการก่อสร้างและแจ้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด

จากนั้น สอบที่ดินแปลงของชาวบ้านหมู่ 10 ต.เขาค้ออีกราย โดยพบว่ากำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารร้านกาแฟและปรับพื้นที่เป็นลานกางเต้นท์ โดยไม่พบเจ้าของที่ดินและผู้แล จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ครอบครองที่ดินขออนุญาตไปยังศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์แต่ถูกสั่งระงับการก่อสร้าง และเมื่อทำการรังวัดที่ดินพบว่ามีเนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา พื้นที่ถูกพัฒนาดังกล่าวไปครอบแปลงผู้ครอบครองรายอื่นอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกการตรวจยึดไว้ก่อน จากนั้นให้ทางผู้ครอบครองที่ดินนำหลักฐานการครอบครองมาแสดง