บุรีรัมย์-เจ้าของร้านเนื้อย่างวอนโจรเอาถังแก๊สเครื่องมือหากินมาคืนจะไม่เอาความ ระบุเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ทำไมต้องมาซ้ำเติมคนหาเช้ากินค่ำ
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.เกิดเหตุคนร้ายขโมยถังแก๊ส “ร้านแก่นจันทร์ เนื้อย่าง-แจ้วฮ้อน สาขาแฟลตตำรวจ”ร้านเนื้อย่างชื่อดัง ตั้งอยู่ถนนสายบุรีรัมย์ – นางรอง ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ โดยนายธนกฤษ ขันเดช อายุ 41 ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่า มีชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ และสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาขโมยถังแก๊สที่ตั้งอยู่บริเวณเตาปิ้งย่างภายในร้านไปจำนวน 1 ถัง หลังจากนั้นห่างกันไม่ถึง 20 นาที คนร้ายคนเดิมก็ได้ย้อนกลับมาขโมยถังแก๊สที่ตั้งอยู่ติดกันไปอีก 1 ถัง คืนเดียวถูกขโมยถังแก๊สไป 2 ถัง
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดที่ทางร้านติดตั้งไว้ สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของทางร้านเป็นอย่างดี อาจจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้านี้ว่าทางร้านตั้งถังแก๊สไว้ตรงไหน จึงเข้ามายกเอาไปแบบง่ายดาย จากพฤติกรรมของคนร้ายคาดว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเบื้องต้นก็ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว
นายธนกฤษ กล่าวว่า ถังแก๊สที่คนร้ายขโมยไปหากรวมทั้งถังและแก๊สก็จะประมาณถังละ 2,500 บาท รวม 2 ถังก็ราว 5,000 บาท ในฐานะคนที่ทำอาชีพค้าขายก็เสียความรู้สึก ทั้งยังต้องลงทุนควักเงินซื้อถังแก๊สใหม่อีก โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้ยิ่งไม่ควรจะมาก่อเหตุซ้ำเติมคนค้าขาย เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมาก หากไม่มีเงินหรือไม่มีงานทำก็น่าจะมาขอกันดีๆ อยากฝากคนร้ายหากกลับใจนำถังแก๊สมาคืนทั้ง 2 ถัง จะไม่เอาเรื่องแล้วจะยอมถอนแจ้งความให้ แต่หากไม่สำนึกเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ ก็คงต้องปล่อยให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นายธนกฤษยังได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองในเฟสบุ๊ก เพื่อเตือนภัยร้านค้าต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังถังแก๊สหรือสิ่งของต่างๆมากขึ้นจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกับร้านของตนเองส่วนที่ร้านหลังเกิดเหตุก็ได้ซื้อโซ่มาคล้องและล็อกติดโต๊ะไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกลักขโมยซ้ำอีก
ขณะที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำภาพกล้องวงจรปิดไปเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี