สุรินทร์- ชาวสุรินทร์ร่วมสืบสานประเพณีจุลกฐินผ้าไหมหนึ่งเดียวในอีสาน เชื่อมโยงวิถีชีวิตการผลิตผ้าไหมและวิถีคนกับช้างกระตุ้นการท่องเที่ยวนวัตวิถี

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.น.ส.ศันสนีย์ ทาสม ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ผู้มีจิตศรัทธาชาวสุรินทร์และต่างจังหวัด ได้เป็นเจ้าภาพทอดจุลกฐินผ้าไหมสามัคคี ที่วัดบ้านขุนไชยทอง หมู่ที่ 4 ตำบลหนองเรือ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายประภาศ บุญยินดี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน

ทั้งนี้ ประเพณีทอดจุลกฐินผ้าไหม เป็นประเพณีเฉพาะของชาวสุรินทร์ ที่พระสงฆ์รุ่นก่อนๆ ได้ต่อยอดจากการประเพณีทอดจุลกฐินทั่วไป โดยนำจุดแข็งที่จังหวัดสุรินทร์เป็นเมืองผ้าไหม มีการทอผ้าไหมแทบทุกหมู่บ้าน จึงประยุกต์ใช้ผ้าไหมตัดเย็บเป็นผ้าไตรถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วน ซึ่งในการทำบุญจุลกฐินผ้าไหม จะมีพิธีสู่ขวัญไหม พิธีทำบุญตักบาตร เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล เเละขอขมาตัวไหมที่ได้เสียชีวิตไปเพื่อให้ได้ผ้าไหมมาเป็นเครื่องนุ่งห่ม และพิธีถือศีล 8 ทอผ้าไหมให้ทำผ้าไตรเสร็จในคืนเดียวซึ่งต้องอาศัยความสามัคคีของประชาชนจึงจะทำสำเร็จได้โดยเรียบร้อย

นายสรสาสน์ สีเพ็ง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในการจัดงานทอดจุลกฐินผ้าไหมสามัคคีครั้งนี้ นอกจากเป็นการสืบสานโบราณประเพณีแล้วยังมุ่งหวังที่จะสร้างเสน่ห์กระตุ้นการท่องเที่ยวในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีจังหวัดสุรินทร์ เชื่อมโยงกับอัตลักษณ์การท่องเที่ยววิถีคนกับช้าง โดยได้จัดกิจกรรมวิถีคนกับช้าง เช่น การให้อาหารช้าง รวมถึงการจัดขบวนช้างร่วมในขบวนแห่กี่ทอผ้า อัฐบริขารเเละองค์กฐิน เพื่อให้คณะผู้ร่วมทำบุญได้สัมผัสกับช้างอย่างใกล้ชิดเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเเละประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีคนกับช้าง อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับ การจัดงานทอดจุลกฐินในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในจังหวัดสุรินทร์และจากจังหวัดอื่นๆ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง และมียอดบริจาคถวายวัดเพื่อร่วมสร้างพระอุโบสถรวมทั้งสิ้น 1,084,211 บาท