กาญจนบุรี-รองผบ.ตร.นำทีมเปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า อ.ไทรโยค ทำงานจนถึง วันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาเปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า อ.ไทรโยค เป็นการปฏิบัติราชการวันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหมืองแร่ 2 แห่ง และไร่ข้าวโพด 1 แห่ง โดยพื้นที่ที่จะเข้าตรวจสอบนั้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

โดยมี พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส., พล.ต.ต.ณัฐแก้ว เมตตามิตรพงศ์ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร., พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบช.ภ.7, พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.และ กำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน เช่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จากสำนักจัดการป่าไม้ที่ 10 จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ศูนย์ป่าไม้จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ตชด.ที่ 13 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ ภ.จว.กาญจนบุรี และชุด EOD เข้าทำการตรวจค้น

ทั้งนี้ ใช้หมายค้นของศาลจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 พื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ จุดที่ 2 พื้นที่ประทานบัตรเหมืองแร่ของบริษัท ปฐมวัฒนพานิชย์การแร่ จำกัด หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค ประทานบัตรเลขที่ 32648/16108 เนื้อที่ 31-0-81 ไร่ (หมดอายุ 9 ก.ย.2564) ประทานบัตรเลขที่ 32650/16109 เนื้อที่ 186-0-79 ไร่ (หมดอายุ 9 ก.ย.2554) และ จุดที่ 3 สถานที่แต่งแร่ และครอบครองแร่ ของห้างหุ้นส่วนจำกัดเพชรมงคลเหมืองแร่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เนื้อที่ 49-2-1 ไร่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีนักการเมืองท้องถิ่น (ขอสงวนนาม) ร้องเรียนไปยัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ว่า มีการลักลอบตัดไม้ไผ่ ไม้รวก บุกรุกพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และขุดแร่เก็บแร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต ในเขต อ.ไทรโยค จึงได้สั่งการให้ บก.ปทส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีการกระทำความผิดจริง จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เข้าทำการตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายชะลอ ประทีป นายก อบต.ศรีมงคล ที่ร่วมเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียง พบว่า ประตูที่ปิดล็อคทางเข้าเหมืองแร่เพชรมงคล เป็นพื้นที่ทางเดินสาธารณะที่ชาวบ้านเคยใช้ เดินทางไปมา ระหว่างบ้านบ้องตี้กับบ้านศรีมงคล

นายสมบุญ โชติช่วง อดีตผู้จัดการเหมืองแร่ (ออกจากเหมืองแร่เพชรมงคลมาประมาณ 2 ปีแล้ว) กล่าวว่า เหมืองแร่ดังกล่าว ประทานบัตรหมดอายุไปประมาณ 10 ปีเศษ ปัจจุบันมีการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ แต่งแร่ และขออนุญาตครอบครองแร่ ในพื้นที่ประมาณ 49 ไร่ แต่ปรากฏว่า ผู้ขอได้ใช้แร่ที่เหลือจากการขุดสัมปทานตามที่ขออนุญาตหมดไปแล้ว ได้ใช้เครื่องมือขุดแร่ตามลำห้วย บริเวณพื้นที่ป่าสงวน บริเวณพื้นที่ทั่วๆ ไป จนเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมาก เมื่อแร่ที่ขุดขึ้นมาหมด ก็จะขุดขึ้นมาใหม่ เป็นอย่างนี้ตลอด รวมทั้งตัดไม้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจำนวนนับ 100 ไร่

นอกจากนี้ นายสมบุญ ยังให้การอีกว่า เจ้าของได้สั่งให้คนงานขยายแนวเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตแต่งแร่ออกไปอีก โดยการปักแนวเขตพื้นที่ที่ขออนุญาตแต่งแร่ใหม่ รวมทั้งสร้างบ้านพักในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย อีกประมาณ 12 หลัง และจากการตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังเหมืองแร่ โดยการส่องกล้องทางไกล พบว่า บริเวณด้านในเหมือง มีบ้านพักคนงาน กองแร่ โรงแต่งแร่ หลักเขต บ้านพักแบบโฮมสเตย์ มีการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยการตัดต้นไม้ขาย รวมทั้งปลูกสิ่งปลูกสร้างในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ถึงแม้จะเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากทางจังหวัดดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีกฎหมายควบคุมอยู่ ส่วนใครจะมาสานงานต่อ ผบ.ตร.ยังไม่ได้มอบหมายถ้ามาถามตนก็จะแนะนำว่าควรให้ใครทำงานต่อด้านนี้