กาญจนบุรี-รองผบ.ตร.ลุยก่อนเกษียณนั่งฮ.ตรวจพื้นที่ 3 แปลง ทวงคืนผืนป่าจากนายทุนเมืองกาญจน์ บุกรุกป่าสงวนกว่า 600-700 ไร่ ค่าเสียหาย 60 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ต.ต.อภิชัย เทียนเพิ่มพูน รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พ.อ.บุญยิ่ง คงเกตุ หน.ฝ่ายข่าว กอ.รมน. ทหาร กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมีนายอชิระ ณ นคร ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ราชบุรี) นายชะลอ ประทีป นายก อบต.ศรีมงคล นายไลเฮง แซ่ลิ้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เข้าร่วมและตอบคำถามของ รอง ผบ.ตร.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองเมืองดี ว่ามีนายทุนเข้ามาบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินของหน่วยงานราชการ และนำไปปลูกพืชทางการเกษตรในท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จำนวน 1 แปล และท้องที่ หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จำนวน 2 แปลง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึก พบเป็นเรื่องจริงตามที่ได้รับแจ้งมา ซึ่งพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้ง 3 แปลง ส่วนใหญ่อยู่กลางหุบเขา การเดินทางค่อนข้างลำบาก จึงไม่มีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา จะมีก็แต่ชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากการลงตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้น ปรากฏว่า มีกลุ่มนายทุนบุรุกพื้นที่ทั้ง 3 แปลง ประกอบด้วย แปลงที่ 1. เลขพิกัดที่ 47P 508492 E 1546637 N พบพื้นที่ถูกบุกรุก บริเวณ ริมห้วยแม่กะบาล หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทโยค อยู่ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพภาคที่ 1 เข้าทำประโยชน์เป็นพื้นที่ฝึก มีการบุกรุกเนื้อที่ประมาณ 244 ไร่ ปลูกพืชการเกษตร เช่น มะนาว แตงโม ฝักทอง เต็มบริเวณพื้นที่ และมีการเตรียมกล้าไม้ มะพร้าว มะม่วง ทุเรียน มะละกอ อยู่ภายในเรือนเพาะชำ อีกด้วย
ส่วนแปลงที่ 2.อยู่ที่บริเวณเชิงเขา บ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ปลูกต้นยูคาลิปตันอายุได้ประมาณ 1 ปี สำหรับแปลงที่ 3.พบพื้นที่ถูกบุกรุก แผ้วถางใหม่และบางส่วนลงกล้าไม้มะขาม มัน กล้วย เต็มแปลง และยังมีการขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ เนื้อที่ที่ถูกบุกรุกประมาณ 180 ไร่ ซึ่งที่ที่ถูกบุกรุกแปลงดังกล่าวอยู่ติดกับแปลงที่ปลูกยูคาลิปตัส
โดยที่ดินทั้ง 3 แปลง ตรวจสอบแล้วพบอยู่ในเขตราชพัสดุ ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 ขอใช้ประโยชน์เข้าดูแลเป็นพื้นที่ทำการฝึก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศเมียนมา เพียงแค่ประมาณ 800 เมตร และนอกจากนี้อยู่ใกล้เขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน และคาดว่า ที่ดินที่ถูกบุกรัฐ ทำให้รัฐเสียหายรวมกันประมาณ 62 ล้านบาท
จากนั้นคณะของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 497/2562 ไปตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแปลงที่ 1 หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เมื่อไปถึงไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมดกว่า 168 ไร่ มีอาคารปลูกสร้างเป็นบ้านพักคนงาน 2 หลัง อาคารคลุมเครื่องสูบน้ำ 1 หลัง
นอกจากนี้ ยังมีการปลูกมะม่วง มะละกอ มะพร้าว มะกรูด รวมทั้งพืชเกษตรชนิดอื่นรวมกว่า 1 หมื่นต้น ขณะเดียวกันยังพบรถจักรยานยนต์ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 4 คัน อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ที่สำหรับทำการเกษตร และการก่อสร้างจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดเอาไว้ ก่อนที่จะส่งมอบของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค พร้อมให้ติดตามจับกุมตัวนายทุนที่เป็นเจ้าของมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า จะต้องรอการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐในเรื่องของป่าต้นน้ำลำธาร เนื่องจากเกี่ยวข้องทางอ้อมกับความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นจึงต้องฝากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เข้มงวดกวดขัน แม้ตนจะใกล้เกษียณ แต่กฎหมายยังอยู่ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็จะต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่