ขอนแก่น-ชาวบ้านนับร้อยลุกฮือประท้วงไม่เอาฟาร์มหมูในพื้นที่ ระบุสร้างใกล้แหล่งน้ำกลัวผลกระทบในระยะยาว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ได้มีชาวบ้านกว่า 500 คนจากบ้านดงเก่า ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น รวมตัวกันเพื่อปักป้ายคัดค้านการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมูในพื้นที่ที่กำลังจะมีการก่อสร้าง โดยมีข้อคามระบุว่า “ชาวบ้านโต้น ดงกลาง ดงเก่า ไม่เอาฟาร์มเลี้ยงหมู” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบ จากสภ.พระยืน รวมทั้งฝ่ายปกครอง มารักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรง หลังจากรวมตัวกันได้ประมาณ 1 ชั่วโมงก็แยกย้ายกันกลับ

นายชัยชาญ เพชรสีเขียว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงกลาง ม.5 ต.บ้านโต้น อ.พระยืน กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้รับการประสานจากบริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องว่า ให้แจ้งประชาชนในพื้นที่ที่สนใจเลี้ยงหมูเข้าอบรมรับฟังรายละเอียดการเลี้ยงหมู ซึ่งมีผู้นำชุมชนและประชาชนที่สนใจเข้าอบรมจำนวนมาก เมื่อการอบรมเรียบร้อยบริษัทได้มอบไข่ให้ผู้ร่วมอบรมโดยไม่มีใครทราบว่าจะมีการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงหมูในพื้นที่

“ในจุดที่กำลังมีการก่อสร้างเมื่อก่อนเคยมีบริษัทเอกชนเข้ามาสำรวจเพื่อจะสร้างสนามกอล์ฟ แต่ยกเลิกไป จากนั้นก็มีบริษัทเอกชนอีกราย มาทำบ่อเลี้ยงปลา และเพิ่งเลิกกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นชาวบ้านและผู้นำชุมชนไม่มีใครทราบว่าจะมีการสร้างฟาร์มงหมูขึ้นมาแทนในจุดดังกล่าว จนกระทั่งมาทราบว่าบริเวณนี้จะมีการสร้างฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน"นายชาญชัยกล่าว

ทั้งนี้ ชาวบ้านอยากทราบข้อเท็จจริงว่า มีการอนุญาตให้สร้างหรือไม่ เพราะไม่มีใครทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย อีกทั้งไม่เคยมีการทำประชาคม ไม่มีการแจ้งรายละเอียดผลดี ผลเสีย ผลกระทบให้ชาวบ้านในพื้นที่ทราบเลย หากจะสร้างฟาร์มขนาดใหญ่บริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องถามความเห็นชอบของประชาชนในพื้นที่เสียก่อน แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเรื่องเลย ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมาประท้วง

นายชัยชาญ กล่าวว่า ฟาร์มดังกล่าวสร้างติดพื้นที่แก่งกุดโดก แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 1,400 ไร่ ที่ใช้กักเก็บน้ำสำหรับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งยังคงเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวห่างลำน้ำชีประมาณ 20 เมตร ชาวบ้านกลัวจะเป็นแหล่งแพร่พันธุ์สัตว์และแมลงนำโรค อีกทั้งก่อเหตุรำคาญกลิ่นเหม็น น้ำเสียและของเสียที่ออกจากฟาร์มลงสู่หนองน้ำธรรมชาติ ขอเรียกร้องให้หน่วยราชการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน