THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

29 กรกฎาคม 2562 : 14:11 น.

ขอนแก่น-แม่ช็อก! กระดูกสันหลังลูกสาวคดงอเชื่อสาเหตุมาจากสะพายกระเป๋าหนังสือหนัก ฝากเตือนผู้ปกครองใส่ใจบุตรหลาน

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังของ จ.ขอนแก่น ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการมีไข้สูง แต่เมื่อทีมแพทย์ทำการตรวจรักษาพบว่า กระดูกสันหลังคดงอ หลังรับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับนางสุภาพ ดีบุญมี ณ ชุมแพ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/2 ม.6 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันพักอยู่ที่บ้านพักในตัวเมืองชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

นางสุภาพ ได้แสดงภาพผลการเอกซเรย์ จากทีมแพทย์โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของ จ.ขอนแก่นgป็นภาพ เอกซเรย์ปอดของ ด.ญ.ปารย์ทองแท้ ดีบุญมี ณ ชุมแพ หรือ น้องโทนี่ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชุมแพศึกษา อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โดยภาพเอกซเรย์พบว่ากระดูกสันหลังของน้องโทนี่คดงอ

นางสุภาพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พาน้องโทนี่เข้ามาทำธุระในเมืองขอนแก่น แต่ลูกสาวมีอาการไอ ตัวร้อน จึงพาส่งโรงพยาบาลเอกชนในเมืองขอนแก่น โดยแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายและเอกซเรย์ปอด เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการป่วย ผลเอกซเรย์ปอดออกมาปกติ และลูกสาวก็ป่วยด้วยอาการไข้ธรรมดาทั่วไปและหลอดลมอักเสบ แพทย์จึงทำการรักษาตามอาการป่วย ซึ่งขณะนี้ลูกหายไข้แล้วและแพทย์ก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้

“ถ้าลูกไม่ป่วยและไม่มาพบแพทย์ก็จะไม่พบความผิดปกติของลูก เพราะผลการเอกซเรย์พบว่ากระดูกสันหลังของน้องโทนี่คดงอ แต่แพทย์ที่รักษาเป็นแพทย์ที่รักษาโรคทั่วไป ไม่ใช้แพทย์เฉพาะทางหรือโรคกระดูก ซึ่งแพทย์ได้นัดให้มาพบเพื่อตรวจติดตามอาการป่วยอีกครั้ง เพื่อส่งต่อให้หมอเฉพาะทางตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และวางแผนการรักษาเกี่ยวกับกระดูกที่คดงอต่อไป”นางสุภาพกล่าว

นางสุภาพ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับแพทย์เบื้องต้นทำให้ทราบว่า อาการกระดูกคดงอ น่าจะเกิดจากการแบกสิ่งของซึ่งก็คือกระเป๋านักเรียนที่หนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่วนตัวก็คิดว่าน่าเกิดจากการที่ลูกสะพายกระเป๋านักเรียนเช่นกัน เพราะตั้งแต่ลูกสาวเข้าเรียนในระดับชั้น ม.1 ถึง ม.3 น้องโทนี่บ่นปวดหลัง ปวดไหล่ และชอบให้แม่นวดหลังให้บ่อยๆ เพราะการเรียนในระดับมัธยม นักเรียนต้องสะพายกระเป๋าเดินเรียนตามห้องต่างๆ จึงน่าจะเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังที่คดงอ

อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวจะนำแผ่นเอกซเรย์ เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อขอให้ลูกสาวเปลี่ยนจากกระเป๋าสะพายหลังมาเป็นกระเป๋าแบบลากแทน เพราะคิดว่าถ้าปล่อยให้ลูกใช้กระเป๋าแบบเดิม ลูกอาจจะมีอาการรุนแรงกว่านี้จะเสียบุคลิกภาพ หรืออาจจะอาการหนักถึงขั้นทับเส้นประสาทก็ได้ และขอฝากเป็นอุธาหรณ์ไปยังผู้ปกครองทุกคนตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้กับบุตรหลานด้วย

https://mail.google.com/mail/u/0/#inbox/FMfcgxwDqTcHZsCdjsctFGShnHvzWKFB?projector=1

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ