แห่เที่ยวงานถนนพรรณไม้งามเฉลิมพระเกียรติเมืองนนฯ รายได้สะพัดแตะ 10 ล้านต่อวัน ปักธงแลนด์มาร์กท่องเที่ยวถนนสายไม้ดอกไม้ประดับ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ ลานกิจกรรม ซอยวัดพระเงิน ถนนบางม่วง-บางคูลัด นายภานุ แย้มศรี ผวจ.นนทบุรี เป็นประธานเปิดงานโครงการ “ถนนพรรณไม้งามเฉลิมพระเกียรติ” จัดโดย เทศบาลตำบลบ้านบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ภายในงานได้มีการนำต้นไม้พรรณไม้หายาก ในซอยวัดพระเงิน ตลาดต้นไม้ มาจัดแสดง รวมถึงสินค้าโอทอป ของดีราคาถูก และอาหารพื้นถิ่นของชาวจังหวัดนนทบุรีให้เลือกซื้อ โดยงานจะจัดวันนี้ไปจนถึงวันที่ 29 ก.ค. รวม 4 วัน
นายภานุ แย้มศรี ผวจ.นนทบุรี กล่าวว่า โครงการ “ถนนพรรณไม้งามเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก”ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการจิตอาสาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการต่อเนื่องตามโครงการ1อำเภอ1ถนนเฉลิมพระเกียรติ ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมการมีอาชีพให้ประชาชน รวมถึงช่วยผู้ประกอบการในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความพิเศษนอกเหนือจากเป็นถนนสะอาด เป็นระเบียบตามเป้าหมายของโครงการ สิ่งที่สำคัญคือ เป็นถนนเศรษฐกิจด้วย นั้นคือเป็นตลาดต้นไม้ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านเรือน สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ของจังหวัดนนทบุรี ในเรื่องเมืองที่อยู่อาศัยมีคุณภาพ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีซึ่งตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของจังหวัดทุกเรื่อง
ผวจ.นนทบุรี กล่าวว่า ทางจังหวัดเตรียมการต่อยอดขยายงานไปในพื้นที่อำเภออื่นๆที่มีศักยภาพ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป อำเภอบางใหญ่เด่นในเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเราจะนำแนวคิดนี้ไปพัฒนา พิจารณาตามสภาพพื้นที่ ในจุดอื่นๆ อาจจะขยายจุดไม้ดอกไม้ประดับไปต่อเนื่อง ซึ่งต้องดูตามสภาพพื้นที่แต่ละอำเภอ ว่ามีศักยภาพแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ส่วนในพื้นที่บางใหญ่เองถือว่ามีบ้านจัดสรรจำนวนมาก แต่ก็ยังมีชาวเกษตรที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอยู่ เช่น โอทอป นวัตวิถี ตลาดน้ำซึ่งมีหลายจุด ถ้ามองในแง่เศรษฐกิจถือว่าเชื่อมโยงกันและส่งเสริมกัน โดยเราจะทำงานต่อเนื่องสนับสนุนชาวบ้านในพื้นที่ เน้นย้ำพื้นที่จุดแข็งเพื่อต่อยอด ช่วยให้เศรษฐกิจชุมชนขับเคลื่อนไปได้
ด้าน นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ กล่าวว่า เนื่องจากซอยวัดพระเงิน ถือเป็นถนนสายไม้ดอกไม้ประดับ ที่มีการเพาะปลูก ขาย จำหน่าย ซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นคง ทั้งนี้ฝากช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ ได้รับรู้แหล่งที่มีการจำหน่ายพรรณไม้ดอกไม้ประดับซึ่งขณะนี้เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศและมีการจำ หน่ายออกไปทั่วโลก ทั้งตะวันออกกลาง และยุโรป ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมอาชีพและต่อยอดกระบวนการทางด้านสายพันธุ์ให้เกษตรกร และส่งเสริมให้ภาคเกษตรในพื้นที่ที่ยังมีบางส่วนหวงแหนรักษาไว้ เนื่องจากส่วนใหญ่กลายเป็นพื้นที่บ้านจัดสรรแต่ยังเหลือพื้นที่เกษตรอยู่ ขณะเดียวกัน ก็สามารถนำสินค้าอื่นๆที่เป็นสินค้าด้านเกษตร นำมาแปรรูปจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้
“ไฮไลท์ของงานยังมีเรื่องของกิจกรรมความสะอาดในโครงการ1อำเภอ 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ มีเป้าหมายให้ทุกอำเภอคัดเลือกถนนที่มีความสวยงาม มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ หรือสะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งถนนบางม่วง –บางคูลัด(ซอยวัดพระเงิน) ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ นั้นคือ ถนนที่สะอาดสวยงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ถือเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ซึ่งภายในชุมชนกว่าสองร้อยหมู่บ้านได้มีการระดมพันธุ์ไม้นานาชนิดมาไว้เพื่อสร้างรายได้ ที่ผ่านมาถนนสายนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณสิบล้านบาทในแต่ละวัน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณสิบเปอร์เซนต์จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งที่บางใหญ่มีร้านค้าพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับกว่าสองพันรายถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนี้ จึงอยากเชิญชวนมาช้อป เยี่ยมชม พันธุ์ไม้นานาชนิด และสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่นำสินค้าแปรรูปเกษตรได้มีตลาดกระจายสินค้า เพื่อสร้างเศรษฐกิจในชุมชน” นายอำเภอบางใหญ่ กล่าว
ขณะที่ นายสุพจน์ ธูปแพ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านบางม่วง กล่าวว่า ในส่วนท้องถิ่น มีความคาดหวังการสัมฤทธิ์ผลไปถึงผู้ผลิต และผู้จำหน่าย เชื่อมโยงกันโดยมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและยกระดับไปสู่ศูนย์รวมตลาดกลางพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับแห่งประเทศไทย ในการส่งออกทั้งในและต่างประเทศ เหมือนกับในตลาดยุโรปอย่างเช่นประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยการดำเนินการผ่านตลาดกลางในการเคาะราคาที่เหมาะสม เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
“เราได้ยกระดับการพัฒนาโดยการมุ่งสู่การใช้เทคโนโลยี โซเชียลมีเดียส์ เข้ามาหนุนเสริมในการทำงาน เช่น การใช้มือถือเชื่อมต่อ คิวอาร์โค้ดให้กับร้านค้าแต่ละร้าน ผ่านเทศบาลเป็นศูนย์กลางการประชาสัมพันธ์ โดยให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผ่านแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยเทศบาลตำบลบ้านบางม่วง ซึ่งถือเป็นการนำดาต้าหรือข้อมูลเข้าไปในไอที หรือเทคโนโลยีในการยกระดับการทำงานในโลกออนไลน์แบบเศรษฐกิจดิจิตอลในปัจจุบัน ซึ่งเราจะไม่ทำงานแบบไฟไหม้ฟางแต่จะมุ่งไปสู่ความยั่งยืนและสร้างคุณภาพเพื่อเดินหน้าต่อยอดจากตลาดชุมชนไปสู่ตลาดระดับโลก” นายสุพจน์ กล่าว