ปทุมธานี-หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือพ่อใจเด็ดแม้ตัวเองจะป่วยแต่กัดฟันเลี้ยงลูกสาวพิการทางสมองอย่างไม่ย่อท้อ วอนสังคมช่วยเหลือชีวิตลำบากมาก
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.เจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจ.ปทุมธานี พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี สาธารณสุขจ.ปทุมธานี เดินทางไปที่หมู่บ้านธราดลบุรี บ้านเลขที่ 250/546 หมู่ 1 ต.ลำผักกูด อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บ้านของนายเลิศอนันต์ ชยานุกูล อายุ 58 ปี และ น.ส.ปรัชญ์พร ชยานุกูล อายุ 24 ปี ลูกสาว เพื่อให้ความช่วยเหลือตามที่ร้องขอผ่านศูนย์ดำรงธรรม
ทั้งนี้ ในห้องนอนชั้นล่างพบน.ส.ปรัชญ์พร พิการทางสมอง นอนป่วยติดเตียงอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบความเป็นอยู่ของทั้งสองพ่อลูก หลังได้รับเอกสารประสานงานแจ้งความความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมอ.ธัญบุรีว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นายเลิศอนันต์แจ้งว่า ไม่มีอาชีพ ป่วยเป็นโรคเบาหวานเรื้อรังนานกว่า 18 ปี จนเบาหวานขึ้นตาเป็นต้อกระจก รอการผ่าตัด และ ยังป่วยเป็นโรคไตเสื่อมระยะสุดท้าย ประกอบกับต้องดูแลลูกสาว ป่วยเป็นอัมพาต ตาบอดทั้งสองข้าง พิการทางสมอง อันเกิดจากอุบัติเหตุตั้งแต่ปี 2553 ทำให้ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และขณะนี้ยังเริ่มมีอาการเป็นแผลกดทับ
นายเลิศอนันต์ได้ร้องขอความช่วยเหลือ 1.เรื่องต้องการย้ายสิทธิการรักษาพยาบาลหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง ของตนเองและบุตรสาวจากโรงพยาบาลปทุมธานีไปที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง 2.ต้องการเตียงสำหรับผู้ป่วยติดเตียงพร้อมอุปกรณ์ หรือสายสำหรับถ่ายของเสีย 3.ต้องการผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำหรับผู้ใหญ่ไซร์ L 4.ต้องการยานวดแก้ปวด ยาหม่อง ยาสมุนไพร 5.ต้องการให้ซ่อมแซมบ้านที่อาศัยอยู่ เนื่องจากบันได ขอบประตูมีสภาพผุพัง 6.ต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือดูแลบุตรสาว 7.ต้องการขอรับบริจาคจากภาครัฐและเอกชนเป็นเงินเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล
นายเลิศอนันต์ กล่าวว่า ตนเองพาลูกสาวย้ายมาอยู่ที่ จ.ปทุมธานีได้ประมาณ 1 ปีกว่า โดยลูกสาวป่วยพิการทางสมอง ตาบอดทั้งสองข้าง เนื่องจากเกิดจากอุบัติเหตุทางรถเมื่อปี 2553 จากนั้นได้ผ่าตัดหลายครั้ง จนทำให้เป็นผู้พิการทางสมองและตาบอด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่สามารถตามหาคนรับผิดชอบ หรือเจ้าของสุนัขที่มาชนรถจนเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ติดตามเรื่อง จากนั้นก็ใช้ชีวิตรับจ้างหาเลี้ยงลูกสาว อาศัยอยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กระทั่งปี2561 ได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านญาติ แต่จ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง และช่วยทำงานคัดแยกของเก่าไปขาย เพื่อให้พอมีรายได้
อย่างไรก็ตาม ระยะหลังตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง จึงหาเลี้ยงลูกสาวไม่ค่อยไหว อีกทั้งช่วงหลังมานี้ ลูกสาวมักจะเกิดอาการชักเกร็งอยู่บ่อย ๆ หลังได้กลิ่นกาแฟจากโรงงานผลิตกาแฟใกล้หมู่บ้าน เนื่องจากประตูบ้าน ขอบหน้าต่างผุพัง ทำให้กลิ่นสามารถเข้ามาในห้องนอน จึงต้องการซ่อมแซมบ้านเพื่อให้เกิดความมิดชิด จึงได้เข้าไปที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเงินสดและสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคมาให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน และจะประสานพื้นที่เทศบาลธัญบุรี เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ต่อไป