นครศรีธรรมราช-รวมพลังพุทธศาสนิกชนแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อร่วมขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สู่มรดกโลก คาดจะสามารถส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ให้ยูเนสโกได้ภายในปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ลานโพธิ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมพุทธศาสนิกชนจาก 23 อำเภอ นักเรียน นักศึกษา ร่วมในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ สวดทำนองสรภัญญะ และสวดบูชาบูชาพระบรมธาตุ เพื่อเปิดตัวการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สู่มรดกโลก โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16-17-18 ธรรมยุต/เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์ โดยมีการอ่านประกาศเจตนารมณ์ เพื่อขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร สู่มรดกโลก และรำมโนราห์บูชาพระบรมธาตุ โดยนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช
สำหรับ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นภูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดในภาคใต้ เป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมของชาวนครศรีธรรมราช และประชาชนทั่วประเทศ เป็นปูชนียสถานอันเป็นหลักฐานการแลกเปลี่ยนคุณค่าทางจิตใจของมนุษย์มานานหลายศตวรรษ เป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศ จ.นครศรีธรรมราช ได้เสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก ต่อองค์การยูเนสโก เข้าสู่บัญชีเบื้องต้นแล้ว และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเบื้องต้นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.56 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว บัดนี้มีความพร้อมที่จะเสนอเอกสารฉบับสมบูรณ์ต่อศูนย์มรดกโลก เพื่อให้องค์การยูเนสโกได้พิจารณา คาดว่า จะสามารถส่งได้ภายในเดือนธ.ค. 2562 นี้
ขณะที่ คณะนักวิจัยโดย รศ.ดร.นคร ภู่วโรดม หัวหน้าชุดโครงการ อนุรักษ์โครงการโบราณสถานตามหลักวิศวกรรม และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ยืนยันถึงโครงสร้างขององค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ยังมีความมั่นคงแข็งแรง แม้จะเอียง 1.45 องศา ส่วนแรงสั่นสะเทือนจากการจราจรไม่ส่งผลกระทบต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์ แล จากการวิเคราะห์โครงสร้างของเจดีย์ พบว่าองค์พระเจดีย์ยังมั่นคงปลอดภัยภายใต้น้ำหนักของตัวเองทั้งส่วนขององค์เจดีย์และการรับน้ำหนักของดินฐานราก และเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารในการนำเสนอวัดพระมหาธาตุ เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก